พลาสติก pp กับ pe ต่างกันอย่างไร รู้ไว้ก่อนเลือกแพ็กเกจเครื่องสำอางที่ใช่

พลาสติก pp กับ pe ต่างกันอย่างไร? เจ้าของแบรนด์หลาย ๆ คนอาจไม่ทราบว่านอกจากประเภทของ Packaging ที่เราเลือกนำมาใช้กับสินค้าที่เป็นเครื่องสำอางของเราจะสำคัญแล้ว ก็ยังมีในส่วนของชนิดพลาสติกที่เราเลือกมาใช้ด้วย เพราะแม้พลาสติกนั้นจะมีหลายชนิดให้เลือกสรร แต่ก็ใช่ว่าทุก ๆ ชนิดจะเหมาะกับการเป็น Packaging ฉะนั้นในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักพลาสติกของบรรจุภัณฑ์แต่ละชนิดกันว่ามีกี่แบบ ซึ่งชนิดของพลาสติกที่มีความโดดเด่นและได้รับความนิยมนั่นก็คือ พลาสติก pp และ pe ซึ่งจะมีข้อแตกต่างกันอย่างไร มาดูกันค่ะ

พลาสติก pp กับ pe ต่างกันอย่างไร แพคเกจเครื่องสำอางควรใช้ชนิดไหน?

พลาสติก pp กับ pe ต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนจึงจะเหมาะกับสินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง?

“แพคเกจจิ้งเนื้อพลาสติก” นั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากรูปลักษณ์ที่ดูใช้งานและเข้าถึงได้ง่าย จึงทำให้มันเป็นชนิดของบรรจุภัณฑ์ที่เจ้าของแบรนด์ไว้วางใจที่จะเลือกไปเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอสินค้าในตลาด ทั้งนี้ อีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เจ้าของแบรนด์เลือกขวดชนิดนี้เป็นเพราะมีราคาถูก มีหลายขนาด และมีหลายรูปแบบให้เลือกอีกด้วย จากที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงเหตุผลส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งก่อนที่เราจะลงลึกไปกับขวดแบบพลาสติก เรามาทำความรู้จักกับบรรจุภัณฑ์กันก่อนว่าคืออะไร มีความสำคัญแค่ไหน ทำไมเจ้าของแบรนด์จึงควรเลือกอย่างรอบคอบ

อย่างไรก็ตาม พลาสติก นั้น มีหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งที่ได้รับความนิยิมในการนำมาบรรจุสินค้าประเภทต่าง ๆ ก็คงหนีไม่พ้น พลาสติก pp กับ pe ที่เจ้าของแบรนด์มักจะสนใจและนำมาใช้อยู่เสมอ ทั้งนี้ สำหรับเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางมือใหม่อาจยังไม่เคยทราบหรือข้อแตกต่างของพลาสติกทั้ง 2 ชนิดนี้มาก่อน ในบทความนี้ Plastic Park จึงนำข้อมูลมาฝากค่ะ

บรรจุภัณฑ์ “พลาสติก” มีกี่ชนิด อะไรบ้าง?

บรรจุภัณฑ์พลาสติก เป็นประเภทที่ทุกคนต่างเคยพบเห็นและใช้งานมาแล้ว โดยตัวบรรจุภัณฑ์พลาสติกนั้นส่วนมากจะทำมาจากพลาสติกที่แบ่งออกได้เป็นหลักๆ 6 ด้วยกัน ได้แก่

ประเภทที่ 1 PP (Polypropylene)

พลาสติกประเภทนี้ หลายคนอาจคุ้นชื่อนี้เป็นอย่างดี เพราะเรานำพลาสติกประเภท PP มาใช้ในการผลิต บรรจุภัณฑ์อาหารต่าง ๆ เช่น จาน ชาม ขวดพลาสติก ขวดบรรจุยา เพราะพลาสติกประเภท PP นั้น เป็นพลาสติกที่ทนทานต่อความร้อน มีความเหนียว อีกทั้งยังทนแรงกระแทก ทนต่อน้ำมัน และสารเคมีต่าง ๆ อีกด้วย

ประเภทที่ 2 PVC (Polyvinylchloride)

พลาสติกประเภท PVC จึงได้รับความนิยมนำกลับมาใช้ใหม่ ในการผลิตขวดบรรจุน้ำมันพืช กล่องบรรจุอาหารแห้ง และสด ซึ่งจุดเด่นของ พลาสติกประเภท PVC นั้นคือ สามารถนำมาใช้แทนขวดแก้วได้ เพราะตกแล้วไม่แตก และมีน้ำหนักเบากว่าขวดแก้วมากนัก

ประเภทที่ 3 HDPE (High Density Polyethylene)

พลาสติกประเภทนี้ นำมาผลิต ขวดพลาสติกบรรจุภัณฑ์ ประเภทพวก ขวดแชมพู แกลลอนใส่น้ำยาต่าง ๆ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก เป็นต้น

ประเภทที่ 4 PET (Polyethylene terephthalate)

จุดเด่นของพลาสติก PET คือมีความใสและเหนียวสูง สามารถป้องกันการซึมผ่านของไอน้ำที่มี ป้องกันการซึมผ่านของก๊าซได้ดีมาก และป้องกันการซึมผ่านของไขมันได้ดี นิยมนำมาผลิตเป็นขวดพลาสติก หรือขวดน้ำมันพืช

ประเภทที่ 5 LDPE (Low Density Polyethylene)

พลาสติก ประเภท LDPE นั้น เป็นพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นได้สูง มีความเหนียว นิ่ม และใส แต่ไม่ทนความร้อน จึงนิยมน้ำมาผลิตเป็นถุงพลาสติกใช้หิ้ว พลาสติกที่ใช้แรปห่ออาหาร อีกทั้งยังสามารถนำมาผลิตเป็นหลอดได้อีกด้วย

ประเภทที่ 6  PS (Polystyrene)

เป็นพลาสติกมีลักษณะโปร่งใส มีเนื้อที่เปราะและแตกง่าย จึงนิยมน้ำมาผลิตเป็น กล่องโฟม ถ้วย และชาม เพราะมีความทนต่อกรดและด่าง

ประเภทที่ 7 PE (Polyethylene)

เป็นพลาสติกที่เรานิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากคุณสมบัติของพลาสติกประเภทนี้ มีจุดหลอมเหลวที่ต่ำ จึงทำให้ต้นทุนที่ใช้ในการผลิตนั้นถูกลงไปด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับพลาสติกประเภทอื่นๆแล้ว จึงทำให้พลาสติกประเภท PE นั้นมีราคาที่ถูกที่สุด จึงเป็นที่นิยมมากที่สุดเช่นกัน โดยพลาสติกชนิดนี้นิยมนำมาใช้ทำเป็น ขวดแชมพู หรือขวดน้ำยาต่างๆ เพราะมีความทนทานต่อสารเคมี ตัวทำลาย ความเป็นกรดและด่างได้ดี แต่ทนความร้อนได้ต่ำเมื่อเทียบกับพลาสติกประเภทอื่น (ทนอุณหภูมิได้ที่ -50 ถึง 80 องศาเซลเซียส) มีความแข็งแรง คงรูปได้ดี มีความเหนียวยื่นยุ่น สีขุ่น และโปร่งแสง

ข้อดีของ บรรจุภัณฑ์พลาสติก

ข้อดีของบรรจุภัณฑ์แบบพลาสติกนั้นมีหลายประการด้วยกัน เช่น…

  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกมีราคาที่ค่อนข้างถูก ช่วยลดต้นทุนได้
  • ตัวพลาสติกมีความเหนียว น้ำหนักเบา
  • พลาสติกจะไม่นำความร้อนและกระแสไฟฟ้า
  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกสามารถป้องกันการรั่วซึมของอากาศ และน้ำได้ดี
  • บรรจุภัณฑ์พลาสติกยังมีความสามารถทนทานต่อความชื้นและสภาพอากาศได้ ทั้งยังไม่เป็นสนิม
  • สามารถพิมพ์ลวดลายต่างๆลงบนบรรจุภัณฑ์ได้เช่นกัน

ตัวอย่างขวดชนิดเนื้อพลาสติกที่นำมาเป็นเครื่องบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

สำหรับเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ประทินผิวนั้นมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบกระปุก แบบหลอด และขวด ซึ่งแบบขวด

ขวดดรอปเปอร์

เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเนื้อที่มีความหนืดปานกลางถึงน้อย เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อเซรั่ม หรือแอมพลู วัสดุส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติก และแก้ว

ขวดหัวปั้มมีสาย

เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเนื้อที่มีความหนืดปานกลางถึงน้อย เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อเซรั่ม จำพวกสบู่เหลว แชมพู ครีมนวด และโลชั่น วัสดุส่วนใหญ่ของขวดประเภทนี้จะเป็นพลาสติกโดยมาก ซึ่งจะมีต้นทุนที่ราคาถูกว่าบรรจุภัณฑ์ที่เป็นอะคริลิค หรือแก้ว

ขวดหัวเหยาะ หรือขวดสเปรย์

เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเนื้อที่มีความหนืดน้อยมาก จนถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำ ส่วนใหญ่จะเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์โทนเนอร์ น้ำแร่ เอสเซนต์ คลีนซิ่ง ซึ่งในกลุ่มนี้จะมีวัสดุให้เลือกลายแบบ ทั้งพลาสติก อะคริลิค หรือแม้กระทั้งขวดแก้ว

พลาสติก pp (Polypropylene) กับ pe (Polyethylene) ต่างกันอย่างไร?

แม้จะเป็นพลาสติกเหมือนกัน แต่พลาสติกทั้ง 2 ชนิดนี้ก็มีข้อแตกต่างกันอยู่พอควร เช่น…

ความทนทานเรื่องความร้อน

  • พลาสติก PP จะทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดีกว่า PE ค่อนข้างมาก โดยที่ PP นั้นสามารถทนต่อความร้อนได้สูงถึง 1400C และ 1700C ในขณะที่ PE สามารถทนต่อความร้อนได้สูงที่สุดแค่ประมาณ 105.C เท่านั้นเอง
  • พลาสติก PE สามารถที่จะจะกแต่ออุณหภูมิต่ำได้ดีกว่า โดยสามารถทนต่ออุณหภูมิต่ำๆได้สูงสุดถึง -800 C ในขณะที่ PP นั้น มื่อเจอกับอุณภูมิที่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็งเล็กน้อย ก็จะเริ่มเปราะ

ความยืดหยุ่น

  • พลาสติก  PE เป็นพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นสูง ยืดได้ง่าย ทำให้เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการทำเป็นบรรจุภัณฑ์อาหาร และฟิลม์ห่ออาหารมากกว่า
  • พลาสติก PP นั้นมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า PE ค่อนข้างมาก

ความเบาและสีสัน

  • พลาสติก PP เป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบากว่า PE ค่อนข้างมาก เกี่ยวกับสี สีตั้งต้นของ PP จะเป็นสีขาว และโปร่งแสง
  • พลาสติก PE นั้นจะมีความใสที่มากกว่า แต่ว่าพวกมันก็ต้องถูกนำไปผ่านกระบวนการอัดรีดทางอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณสมบัติของมัน เช่น เพิ่มความโปร่งใส และความเหนียว เป็นต้น

ซึ่งคุณสมบัติต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมานี้เป็นส่วนหนึ่งที่ถูกนำมาพิจารณาเท่านั้น เจ้าของแบรนด์ท่านใดที่อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามกับโรงงานรับผลิตบรรจุภัณฑ์ได้โดยตรง เพื่อที่จะได้ทราบข้อมูลอย่างละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญด้วยนั่นเอง

พลาสติก pp กับ pe อันไหนดีกว่ากัน แพคเกจจิ้งสินค้าเครื่องสำอางควรใช้พลาสติกชนิดไหน?

โดยทั้วไปแล้ว ชนิดของพลาสติกที่นิยมนำมาทำมาทำเป็น Skincare Packaging จะมี 2 ประเภทด้วยกัน คือ Polyethylene Terepthalate (PET) และ Polypropylene (PP) ซึ่งตัวที่มักนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสกินแคร์คือ PET เพราะเป็นพลาสติกที่มีน้ำหนักเบา สามารถรีไซเคิลได้ ราคาถูกกว่าแบบอื่น แถมยังช่วยป้องกันการทำลายเนื้อสกินแคร์จากแสงแดด อุณหภูมิ และออกซิเจนภายนอก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะลดประสิทธิภาพการทำงานของสกินแคร์และหมดอายุไวขึ้น ดังนั้น การเลือก Package ให้กับเครื่องสำอาง หากให้เลือกระหว่าง พลาสติก PP และ PE เจ้าของแบรนด์ควรเลือกชนิด PP จะดีที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม สาระความรู้ทั้งหมดที่แอดมินนำมาฝากข้างต้น อาจจะเป็นตัวช่วยสำหรับคนที่กำลังมองหาความรู้ในการเลือกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งในการเลือกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางมาสร้างแบรนด์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางที่น่าดึงดูดต่อสายตาอาจจะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายก็เป็นได้

หากคุณกำลังมองหาโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง รับผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางราคาโรงงาน พร้อมพิมพ์บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง Plasticpark เราพร้อมให้คำแนะนำในเรื่องของบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี

Plastic Park ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกครีม หลอดครีม พร้อมพิมพ์ไม่จำกัดสี

พลาสติกพาร์ค เราเป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ทุกชนิด เช่น กระปุกครีม หลอดครีม ขวดครีม หัวปั้ม หัวสเปรย์ เรามีรูปแบบของบรรจุภัณฑ์หลากหลายกว่า 1,500 รายการ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ด้วยราคาจากโรงงานโดยตรง ทั้งนี้ เรามีรูปแบบของสินค้าให้เลือกมากมายกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง /ขวดพลาสติก/ขวดเครื่องสำอาง / กระปุกครีม / ขวดเซรั่ม /กระปุกสครับ /ตลับครีม / ขวดอโรม่า ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะนำไปต่อยอดสินค้าของแต่ละท่าน เพื่อสร้างความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่อยู่ด้านในได้อย่างลงตัว เราเชื่อว่า หากลูกค้าได้ข้อมูลที่เพียงพอ จะนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้อง ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้า และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เกณฑ์การเลือกบริษัทบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางค์ที่เชื่อถือได้

3 สิ่งควรรู้ก่อนสั่งทำบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

เลือกใช้กระปุกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางแบบไหนดีนะ ?

PlasticPark ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกครีม
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.