ประเภทของ Bioplastic มีกี่แบบ แบบไหนนำมาทำ Packaging ใดได้บ้าง

ประเภทของ Bioplastic มีกี่แบบ อะไรบ้าง? เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนอยากทราบ เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญในการพิจารณาเพื่อหยิบยกเจ้า Bioplastic มาใช้ ซึ่งต้องบอกก่อนค่ะว่า Bioplastic นั้นไม่ได้มีแค่รูปแบบเดียว แต่มีหลายประเภทที่แต่ละชนิดมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะในแง่ของการใช้ในบรรจุภัณฑ์ที่เราคุ้นเคยกันดีในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่กล่องอาหารไปจนถึงถุงพลาสติกที่ย่อยสลายได้ง่าย แต่ละประเภทของ Bioplastic สามารถตอบโจทย์ความต้องการต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้าที่ต้องการบรรจุและความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมที่เราต้องการสร้างร่วมกันในอนาคตด้วยนั่นเอง

ประเภทของ Bioplastic มีกี่แบบ แบบไหนนำมาทำ Packaging ใดได้บ้าง

ประเภทของ Bioplastic ที่ควรศึกษามีอะไรบ้าง? ทำความรู้จักเอาไว้ จะได้เลือกใช้ถูก!

“บรรจุภัณฑ์สมัยใหม่กับเทรนด์รักษ์โลกที่กำลังมาแรง” ถือเป็นเทรนด์ตอบโจทย์ผู้ซื้อยุคใหม่มากที่สุด เป็นโจทย์ที่เจ้าของแบรนด์ในยุคนี้ต้องตระหนักและทำการบ้านให้ดีทีเดียว เนื่องจากในปัจจุบันผู้บริโภคมีพฤติกรรมหรือเทสในการเลือกซื้อสินค้าที่แตกต่างออกไปจากเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก จากที่เคยตระหนักเพียงแค่คุณภาพของสินค้า แต่เดี๋ยวนี้ผู้ซื้อหันมาใส่ใจตัวแบรนด์เพิ่มขึ้นด้วย เช่น แบรนด์มีส่วนร่วมเพื่อสังคมมากแค่ไหน แบรนด์ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้มมากแค่ไหน แบรนด์ทำการทดลองสินค้ากับสัตว์หรือไม่ ฯลฯ

ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้แม้จะดูเป็น Topic เล็ก ๆ แต่มันก็สามารถทำให้ผู้ซื้อเปลี่ยนใจได้เลย โดยถ้าหากจะให้ผู้บริโภครู้จักเกี่ยวกับแบรนด์ได้ลึกขนาดนี้ สิ่งแรกที่แบรนด์ต้องทำก็คือ การทำให้ผู้บริโภคเห็นแบรนด์ให้ได้ก่อน ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่จะเป็น First Impresssion ได้ดีก็คือ บรรจุภัณฑ์ หรือ แพคเกจจิ้ง ที่ค่อนข้างต้องมีความโดดเด่นพอตัว เพื่อให้เป็นที่น่าสนใจของผู้บริโภคนั่นเอง ซึ่งเราจะสามารถนำเทรนด์นี้มาปรับใช้กับบรรจุภัณฑ์ของเราได้อย่างไรบ้าง Plastic Park นำข้อมูลมาฝากแล้วค่ะ

มาทำความรู้จัก Bio Based Packaging บรรจุภัณฑ์ในเทรนด์รักษ์โลกที่เจ้าของแบรนด์ควรทำความรู้จัก

โดยทั่วไปแล้ว เราจะรู้กันดีว่าวัสดุแบบพลาสติกนั้นไม่นิยมนำมาร่วมกับแคมเปญเพื่อสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ได้เลย เพราะเป็นวัสดุที่ย่อยสลายยาก ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลาย ๆ คนจะรู้สึกว่า “พลาสติก” ไม่ใช่วัสดุที่ใกล้เคียงกับคำว่าบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนเลยแม้แต่น้อย แต่แท้จริงแล้ววัสดุอย่างพลาสติกก็สามารถถูกพัฒนาหรือเลือกนำมาใช้ให้เป็น  Sustainable Packaging ได้เช่นกัน โดยผ่านการนำวัสดุหรือพลาสติกอย่าง Bio Based เข้ามาใช้ ซึ่งเจ้า Bio Based นี้ คืออะไร มีข้อดีอย่างไร และนำมาทำเป็น Packaging ใดได้บ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันค่ะ

ไบโอพลาสติก คืออะไร?

ไบโอพลาสติกมีลักษณะคล้ายพลาสติกที่ทำมาจากพืช จึงสามารถย่อยสลายเป็นขยะได้และย่อยสลายทางชีวภาพได้ วัสดุเหล่านี้จึงมีปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ต่ำ โดยวัสดุยอดนิยมที่ใช้ทำไบโอพลาสติก อาทิ สาหร่าย ข้าวโพด แป้งข้าวโพด ถั่ว ต้นอ้อย และรากผักต่าง ๆ พืชเหล่านี้สามารถแพร่พันธุ์และเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไบโอพลาสติกไม่เป็นพิษต่อมนุษย์และสัตว์อื่นๆ แต่ไม่แนะนำให้รับประทานเพราะวัสดุที่ใช้ทำบางชนิดไม่สามารถรับประทานได้ ทั้งนี้ ไบโอพลาสติกใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 3-6 เดือน ดังนั้นหากไบโอพลาสติกกลายเป็นขยะตามธรรมชาติ ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่าขยะพลาสติกทั่วไป เพราะไบโอพลาสติกไม่ได้ทำมาจากสารพิษที่เป็นอันตราย โดยข้อเสียของไบโอพลาสติกคือราคาสูงกว่าพลาสติกทั่วไป ซึ่งก็เป็นราคาที่ต้องจ่ายเพื่อความยั่งยืนค่ะ

3 คุณสมบัติที่สำคัญของ Bio-based Packaging

บรรจุภัณฑ์ชีวภาพมีคุณสมบัติเด่นที่สอดคล้องกับความต้องการของโลกในปัจจุบัน ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน โดยคุณสมบัติหลักของบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ก็มีหลายประการด้วยกันค่ะ ได้แก่…

1.ย่อยสลายได้ (Biodegradable)

สามารถสลายตัวได้โดยธรรมชาติเมื่อหมดอายุการใช้งาน โดยไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

2.ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ใช้วัตถุดิบจากแหล่งทรัพยากรหมุนเวียน (renewable resources) เช่น พืชที่ปลูกขึ้นใหม่ ช่วยลดการปล่อย CO₂ ในกระบวนการผลิต

3.สามารถรีไซเคิลหรือใช้ซ้ำได้

วัสดุชีวภาพบางประเภทสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ช่วยลดปริมาณขยะและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ Bio-based Packaging กลายเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งภาคธุรกิจและความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมนั่นเองค่ะ

ประเภทของ Bio-Based Plastic ที่ผู้ประกอบการต้องรู้จัก

Bioplastic หรือ พลาสติกชีวภาพนั้นมีหลายประเภทด้วยกันค่ะ โดยแต่ละประเภทก็จะมีจุดเด่นและจุดประสงค์ที่ถูกนำมาใช้ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งแบ่งได้หลัก ๆ จะมี 5 ประเภท ดังนี้…

1.PLA (Polylactic Acid)

  • กระบวนการผลิต: PLA ผลิตจากแหล่งพืชธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวโพดและอ้อยผ่านกระบวนการหมักเพื่อให้ได้กรดแลกติก ซึ่งนำไปสู่การสังเคราะห์เป็นพลาสติก
  • ลักษณะการใช้งาน: PLA เป็นพลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ซึ่งหมายความว่าสามารถย่อยสลายได้เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นและอุณหภูมิสูง เช่น ในแหล่งขยะชีวภาพ
  • การใช้งานใน Packaging: บรรจุภัณฑ์อาหาร เช่น กล่องพาสต้า, ขวดน้ำ, ถ้วย, และบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารแช่แข็ง, หลอดดูด, ถุงพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว, และฟิล์มห่ออาหาร
  • ข้อดี: เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสามารถย่อยสลายได้ และผลิตจากวัสดุธรรมชาติ
  • ข้อจำกัด: PLA มีความต้านทานต่อความร้อนต่ำ จึงไม่เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ต้องสัมผัสกับความร้อนสูง

2.PHA (Polyhydroxyalkanoates)

  • กระบวนการผลิต: PHA ผลิตจากกระบวนการหมักโดยใช้แบคทีเรียที่สามารถผลิตพลาสติกจากแหล่งคาร์บอน เช่น น้ำตาลหรือไขมัน
  • ลักษณะการใช้งาน: PHA เป็นพลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ ทั้งในน้ำและในดิน
  • การใช้งานใน Packaging: มักใช้ในผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์อาหาร เช่น ถุงพลาสติก, ฟิล์มห่ออาหาร, และบรรจุภัณฑ์สำหรับการจัดเก็บของ
  • ข้อดี: ย่อยสลายได้ในธรรมชาติได้เร็วและไม่มีสารพิษและปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิต
  • ข้อจำกัด:กระบวนการผลิตยังมีราคาแพงเมื่อเทียบกับพลาสติกจากปิโตรเคมี

3.PBS (Polybutylene Succinate)

  • กระบวนการผลิต: PBS ผลิตจากกรดซูคซินิก (succinic acid) ที่ได้จากแหล่งพืชและแอลกอฮอล์โดยผ่านกระบวนการเคมี
  • ลักษณะการใช้งาน: PBS มีคุณสมบัติที่ทนทานและสามารถย่อยสลายได้ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ
  • การใช้งานใน Packaging: ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีความทนทานสูง เช่น ถุงช็อปปิ้ง, ถุงพลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้, ฟิล์มห่ออาหาร, และบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรงและทนทาน
  • ข้อดี: มีความทนทาน, ยืดหยุ่นและสามารถย่อยสลายได้
  • ข้อจำกัด: ค่อนข้างมีต้นทุนสูงในการผลิต

4.Starch-Based Plastics

  • กระบวนการผลิต: พลาสติกที่ผลิตจากแป้งพืช เช่น มันสำปะหลังหรือข้าวโพด ซึ่งทำให้แป้งเกิดการทำให้เป็นเจลและถูกเปลี่ยนเป็นพลาสติก
  • ลักษณะการใช้งาน: เนื่องจากความสามารถในการย่อยสลายได้ พลาสติกชนิดนี้จึงถูกใช้ในผลิตภัณฑ์ที่ต้องการการย่อยสลายเร็วและไม่ทิ้งมลพิษ
  • การใช้งานใน Packaging: มักใช้ทำถุงพลาสติกสำหรับใช้ครั้งเดียวและบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการจัดเก็บอาหาร และกล่องอาหารที่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ
  • ข้อดี: ใช้วัสดุธรรมชาติและย่อยสลายได้และลดมลพิษจากการใช้พลาสติกทั่วไป
  • ข้อจำกัด: ความแข็งแรงและความทนทานอาจไม่เหมาะสำหรับการใช้งานที่ยาวนาน

5.PCL (Polycaprolactone)

  • กระบวนการผลิต: PCL เป็นพลาสติกสังเคราะห์ที่ผลิตจากการหมักทางเคมี โดยการสังเคราะห์จากโมโนเมอร์ที่มาจากกรดแคปโรแลคโตน
  • ลักษณะการใช้งาน: PCL เป็นพลาสติกที่ย่อยสลายได้ง่ายและมีคุณสมบัติในการปรับรูปได้ดี
  • การใช้งานใน Packaging: มักถูกนำใช้ในผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง เช่น ฟิล์มห่ออาหารที่มีการยืดหดได้ง่าย หรือบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการคุณสมบัติในการป้องกันความชื้น
  • ข้อดี: สามารถย่อยสลายได้ง่ายในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ แถมยังใช้งานได้หลากหลายและยืดหยุ่น
  • ข้อจำกัด: ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับพลาสติกจากปิโตรเคมี

การเลือกใช้ Bioplastic สำหรับบรรจุภัณฑ์ต้องพิจารณาหลายปัจจัยที่สำคัญ เริ่มจาก ลักษณะการใช้งาน ซึ่งต้องคำนึงถึงประเภทของสินค้าที่จะใช้บรรจุภัณฑ์ โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงควรเริ่มต้นจากปัจจัยหลัก ๆ เช่นความทนทาน, ความสามารถในการย่อยสลาย, ค่าใช้จ่ายในการผลิต และ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ที่ถือว่าเป็นปัจจัยที่ไม่ควรมองข้ามในการเลือกประเภทของ Bioplastic เนื่องจาก Bioplastic ผลิตจากวัสดุธรรมชาติและย่อยสลายได้ ซึ่งช่วยลดมลพิษได้เป็นอย่างมาก ดังนั้น การตัดสินใจเลือกประเภทพลาสติกชนิดนี้จึงเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องใส่ใจให้มากค่ะ

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่กล่าวมาทุกคนจะเห็นได้ว่า พลาสติกชีวภาพ (Bio-Based Plastic) นั้นถือเป็นทางเลือกที่สำคัญในยุคที่โลกต้องการลดการพึ่งพาทรัพยากรฟอสซิลและแก้ไขปัญหามลพิษพลาสติก แม้ว่าจะมีทั้งชนิดที่ย่อยสลายได้และไม่ย่อยสลายได้ แต่ทุกประเภทต่างมีบทบาทสำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม ด้วยความหลากหลายของคุณสมบัติที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะด้าน ซึ่งการเลือกใช้ Bio-Based Plastic อย่างเหมาะสมไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการสนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่เน้นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืน ทั้งนี้ การขยายการใช้งานพลาสติกชีวภาพอย่างกว้างขวางในอนาคตจะช่วยผลักดันให้โลกของเรามีความสมดุลระหว่างการพัฒนาและการดูแลสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นค่ะ

Plastic Park ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกครีม หลอดครีม พร้อมพิมพ์ไม่จำกัดสี

พลาสติกพาร์ค เราเป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ทุกชนิด เช่น กระปุกครีม หลอดครีม ขวดครีม หัวปั้ม หัวสเปรย์ เรามีรูปแบบของบรรจุภัณฑ์หลากหลายกว่า 1,500 รายการ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ด้วยราคาจากโรงงานโดยตรง ทั้งนี้ เรามีรูปแบบของสินค้าให้เลือกมากมายกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง /ขวดพลาสติก/ขวดเครื่องสำอาง / กระปุกครีม / ขวดเซรั่ม /กระปุกสครับ /ตลับครีม / ขวดอโรม่า ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะนำไปต่อยอดสินค้าของแต่ละท่าน เพื่อสร้างความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่อยู่ด้านในได้อย่างลงตัว เราเชื่อว่า หากลูกค้าได้ข้อมูลที่เพียงพอ จะนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้อง ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้า และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เกณฑ์การเลือกบริษัทบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางค์ที่เชื่อถือได้

3 สิ่งควรรู้ก่อนสั่งทำบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

เลือกใช้กระปุกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางแบบไหนดีนะ ?