ขวดโทนเนอร์พลาสติก อีกหนึ่งแพคเกจจิ้งที่น่าสนใจและได้รับความนิยมในหลาย ๆ แบรนด์ในเวลานี้ทีเดียวค่ะ ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าก่อนจะเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางค์หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่าง ๆ ต้องมีขั้นตอนมากมายกว่าจะผลิตออกมาเป็นสินค้าที่สามารถวางขายตามท้องตลาด เช่น การวิจัยส่วนผสมในเครื่องสำอางค์ การพัฒนาสูตร การทดสอบผลิตภัณฑ์ การขอ อย. การออกแบบฉลากสินค้า ไปจนถึงการเลือกขวดบรรจุภัณฑ์ ขวดครีมต่างๆ ขั้นตอนเหล่านี้กว่าที่ผู้ผลิตจะผ่านมาได้ เรียกว่า หินพอสมควร โดยขั้นตอนการเลือกบรรจุภัณฑ์เปรียบเสมือนหญิงสาวเลือกเสื้อผ้าใส่อย่างไรให้สวยงาม น่ามอง น่าจับจอง การเลือกบรรจุภัณฑ์ก็เป็นเช่นนั้น และเป็นขั้นตอนที่สำคัญขั้นตอนหนึ่งเพราะหากเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม วัสดุไม่ได้มาตรฐาน มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะมีสารปนเปื้อนอันตรายไปถึงผู้บริโภค ซึ่งขวดโทนเนอร์เนื้อพลาสติกก็เป็นอีกหนึ่งแพคเกจจิ้งที่น่าสนใจ มีความปลอดภัย คุณสมบัติที่หลากหลาย แถมยังมีหลายขนาดให้เลือกซึ่งเหมาะสำหรับแบรนด์ที่นิยมจัดจำหน่ายสินค้าหลายขนาดด้วยนั่นเอง
ขวดโทนเนอร์พลาสติก อีกหนึ่งแพคเกจจิ้งที่เจ้าของแบรนด์สกินแคร์ไม่ควรมองข้าม
ขวดพลาสติกสำหรับบรรจุโทนเนอร์ เป็นแบบไหน?
หากพูดถึงขวดนั้น เราต่างทราบกันดีว่าแบ่งออกได้เป็นหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งที่เราจะเห็นกันบ่อย ๆ ก็จะมีทั้งเนื้อแก้วและพลาสติก ซึ่งจากที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า ขวดแบบเนื้อพลาสติก นั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากรูปลักษณ์ที่ดูใช้งานและเข้าถึงได้ง่าย จึงทำให้มันเป็นชนิดของบรรจุภัณฑ์ที่เจ้าของแบรนด์ไว้วางใจที่จะเลือกไปเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอสินค้าในตลาด ทั้งนี้ อีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เจ้าของแบรนด์เลือกขวดชนิดนี้เป็นเพราะมีราคาถูก มีหลายขนาด และมีหลายรูปแบบให้เลือกอีกด้วย
โดยสำหรับขวดใส่โทนเนอร์นั้น มักเป็นรูปแบบขวดพลาสติกแบบเหยาะ เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเนื้อที่มีความหนืดน้อยมาก จนถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นน้ำ ส่วนใหญ่จะเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์โทนเนอร์ น้ำแร่ เอสเซนต์ คลีนซิ่ง ซึ่งในกลุ่มนี้จะมีวัสดุให้เลือกลายแบบ ทั้งพลาสติก อะคริลิค หรือแม้กระทั้งขวดแก้วค่ะ
พลาสติกสำหรับการผลิตขวดโทนเนอร์ มีกี่ชนิด อะไรบ้าง?
บรรจุภัณฑ์พลาสติก เป็นประเภทที่ทุกคนต่างเคยพบเห็นและใช้งานมาแล้ว โดยตัวบรรจุภัณฑ์พลาสติกนั้นส่วนมากจะทำมาจากพลาสติกที่แบ่งออกได้เป็นหลักๆ 6 ด้วยกัน ได้แก่
ประเภทที่ 1 PP (Polypropylene)
พลาสติกประเภทนี้ หลายคนอาจคุ้นชื่อนี้เป็นอย่างดี เพราะเรานำพลาสติกประเภท PP มาใช้ในการผลิต บรรจุภัณฑ์อาหารต่าง ๆ เช่น จาน ชาม ขวดพลาสติก ขวดบรรจุยา เนื่องจากพลาสติกประเภท PP นั้น เป็นพลาสติกที่ทนทานต่อความร้อน มีความเหนียว อีกทั้งยังทนแรงกระแทก ทนต่อน้ำมัน และสารเคมีต่าง ๆ อีกด้วย
ประเภทที่ 2 PVC (Polyvinylchloride)
พลาสติกประเภท PVC จึงได้รับความนิยมนำกลับมาใช้ใหม่ ในการผลิตขวดบรรจุน้ำมันพืช กล่องบรรจุอาหารแห้ง และสด ซึ่งจุดเด่นของ พลาสติกประเภท PVC นั้นคือ สามารถนำมาใช้แทนขวดแก้วได้ เพราะตกแล้วไม่แตก และมีน้ำหนักเบากว่าขวดแก้วมากนัก
ประเภทที่ 3 HDPE (High Density Polyethylene)
พลาสติกประเภทนี้ นำมาผลิต ขวดพลาสติกบรรจุภัณฑ์ ประเภทพวก ขวดแชมพู แกลลอนใส่น้ำยาต่าง ๆ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก เป็นต้น
ประเภทที่ 4 PET (Polyethylene terephthalate)
จุดเด่นของพลาสติก PET คือมีความใสและเหนียวสูง สามารถป้องกันการซึมผ่านของไอน้ำที่มี ป้องกันการซึมผ่านของก๊าซได้ดีมาก และป้องกันการซึมผ่านของไขมันได้ดี นิยมนำมาผลิตเป็นขวดพลาสติก หรือขวดน้ำมันพืช
ประเภทที่ 5 LDPE (Low Density Polyethylene)
พลาสติก ประเภท LDPE นั้น เป็นพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นได้สูง มีความเหนียว นิ่ม และใส แต่ไม่ทนความร้อน จึงนิยมน้ำมาผลิตเป็นถุงพลาสติกใช้หิ้ว พลาสติกที่ใช้แรปห่ออาหาร อีกทั้งยังสามารถนำมาผลิตเป็นหลอดได้อีกด้วย
ประเภทที่ 6 PS (Polystyrene)
เป็นพลาสติกมีลักษณะโปร่งใส มีเนื้อที่เปราะและแตกง่าย จึงนิยมน้ำมาผลิตเป็น กล่องโฟม ถ้วย และชาม เพราะมีความทนต่อกรดและด่าง
6 ข้อดีของขวดโทนเนอร์แบบพลาสติก
ข้อดีของบรรจุภัณฑ์แบบพลาสติกนั้นมีหลายประการด้วยกัน เช่น…
- บรรจุภัณฑ์พลาสติกมีราคาที่ค่อนข้างถูก ช่วยลดต้นทุนได้
- ตัวพลาสติกมีความเหนียว น้ำหนักเบา
- พลาสติกจะไม่นำความร้อนและกระแสไฟฟ้า
- บรรจุภัณฑ์พลาสติกสามารถป้องกันการรั่วซึมของอากาศ และน้ำได้ดี
- บรรจุภัณฑ์พลาสติกยังมีความสามารถทนทานต่อความชื้นและสภาพอากาศได้ ทั้งยังไม่เป็นสนิม
- สามารถพิมพ์ลวดลายต่างๆลงบนบรรจุภัณฑ์ได้เช่นกัน
ขวดพลาสติกใสโทนเนอร์มีกี่ขนาด แต่ละขนาดต่างกันยังไง?
ขวดพลาสติกใส เหมาะสำหรับบรรจุของเหลว เช่น โทนเนอร์ หรือสินค้าอื่น ๆ ตามต้องการ เช่น โลชั่น เครื่องสําอาง เจลแอลกอฮอล์ นั้นจะมีหลายขนาดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ขวดพลาสติกขนาด 100 ml. , 120 ml., 150 ml., 200 ml., 250 ml., 360 ml. และ 450 ml. เป็นต้น ซึ่งแต่ละขนาดก็จะได้รับความนิยมและถูกใช้ให้เหมาะสมกับสินค้าที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ต้องมีการคำนึงถึงการบริโภคของลูกค้าด้วยว่าจะสะดวกแก่ผู้ใช้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งทุก ๆ อย่างสัมพันธ์กันทั้งหมด เจ้าของแบรนด์สามารถเลือกและพิจารณาได้ตามความเหมาะสมและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุดค่ะ
หากคุณกำลังสนใจหรือกำลังมองหาบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางขายส่ง โรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง โรงงานกระปุกครีม ขวดบรรจุภัณฑ์สวยๆ กระปุกเครื่องสำอาง กระปุกครีม PlasticPark เรามีบรรจุภัณฑ์ให้คุณเลือกหลากหลายรูปแบบ มีมากกว่า 1,500 รายการ และยังมีบริการพิมพ์บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางอีกด้วย เรียกได้ว่าบริการครบจบในที่เดียวที่ PlasticPark
Plastic Park ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกครีม หลอดครีม พร้อมพิมพ์ไม่จำกัดสี
พลาสติกพาร์ค เราเป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ทุกชนิด เช่น กระปุกครีม หลอดครีม ขวดครีม หัวปั้ม หัวสเปรย์ เรามีรูปแบบของบรรจุภัณฑ์หลากหลายกว่า 1,500 รายการ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ด้วยราคาจากโรงงานโดยตรง ทั้งนี้ เรามีรูปแบบของสินค้าให้เลือกมากมายกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง /ขวดพลาสติก/ขวดเครื่องสำอาง / กระปุกครีม / ขวดเซรั่ม /กระปุกสครับ /ตลับครีม / ขวดอโรม่า ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะนำไปต่อยอดสินค้าของแต่ละท่าน เพื่อสร้างความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่อยู่ด้านในได้อย่างลงตัว เราเชื่อว่า หากลูกค้าได้ข้อมูลที่เพียงพอ จะนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้อง ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้า และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เกณฑ์การเลือกบริษัทบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางค์ที่เชื่อถือได้