เนื้อครีม มีกี่แบบ แต่ละแบบเหมาะกับบรรจุภัณฑ์แบบไหน?

เนื้อครีม มีกี่แบบ ? แม้จะเป็นสินค้าที่ดูไม่ได้มีความแตกต่างกันเท่าไหร่ แต่เจ้าของแบรนด์ทุก ๆ ทราบหรือไม่ว่าเนื้อครีมนั้นมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน ซึ่งก็จะถูกจำแนกออกเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อีกหลายหลาย ซึ่งนี่เป็นเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้เนื้อครีมแต่ละแบบมีบรรจุภัณฑ์ที่แตกต่างกัน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เรื่องการบรรจุเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความเหมาะสมของการใช้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ เพื่อความสะดวกสบายของผู้บริโภคอีกด้วย ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าเนื้อครีมนั้นมีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบมีวิธีการเลือก Package ยังไงให้เหมาะสม

เนื้อครีม มีกี่แบบ แต่ละแบบเหมาะกับบรรจุภัณฑ์แบบไหน?

เนื้อครีม มีกี่แบบ แต่ละแบบเหมาะกับบรรจุภัณฑ์แบบไหน?

ประเภทครีม บำรุงผิว โลชั่นต่าง ๆ อาจเป็นที่คุ้นเคยกับหลายๆคนอยู่บ้าง ถือเป็นเครื่องประทินผิวที่มีมาช้านาน ครีมบำรุงผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้า ผิวกาย หรือครีมบำรุงเฉพาะส่วน อย่างครีมทามือ ทาส้นเท้า ฝ่าเท้า ครีมทารอบดวงตา หรือแม้แต่ครีมบำรุงเล็บ ต่างก็มีความแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในส่วนของเนื้อผลิตภัณฑ์ซึ่งบางทีเราอาจเรียกรวม ๆ กันว่าครีม แต่แท้จริงแล้วมันอาจจะไม่ใช่ครีมก็ได้

ครีมคืออะไร ทำไมเจ้าของแบรนด์หลาย ๆ คนจึงเลือกผลิต?

ครีม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ซึมลงสู่ผิวได้ช้ากว่าเนื้อผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น ปัจจุบันจึงมีการเพิ่มสารบำรุงต่างๆลงในเนื้อครีมมากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการบำรุงผิว ครีมเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง ผิวหนังลอกจากอากาศเย็นจัด หรือป้องกันการเกิดริ้วรอย เพราะด้วยเนื้อสัมผัสที่หนา และส่วนประกอบของน้ำมันที่เยอะนี่เองจึงทำให้ครีมมีความชุ่มชื้นมากกว่าผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ ซึ่งครีมแต่ละแบบก็จะมีความแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงอาจมีรูปแบบของ Packaging ที่ต่างกันออกไปด้วยเช่นเดียวกัน

 

6 ประเภทของเนื้อครีมที่ต้องทำความรู้จัก

จากที่ได้กล่าวไปว่าเนื้อครีมนั้นมีหลายประเภท ซึ่งหลัก ๆ สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้

 

เนื้อครีม มีกี่แบบ

 

1.ครีม (Cream)

ครีมบำรุงผิวส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil) + น้ำ (Water)ซึ่งจะมีความเข้มข้นของเนื้อครีมสูงมากที่สุด หากเทียบกับการทำงานรูปแบบ (Body Form)การดูดซึมเนื้อครีมเข้าสู่ผิวได้ช้ากว่าการบำรุงผิวชนิดอื่น เนื้อครีมที่นิยมใช้กันในปัจจุบันอาจมีการใส่ส่วนผสมของสาร Active Ingredientsเพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่
 
“ครีม (Cream)” เหมาะสำหรับสาวผิวแห้ง เนื่องจากผิวขาดความชุ่มชื้น ใบหน้าลอก และเกิดริ้วรอยอ่อนกว่าวัยได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น หลังจากใช้ครีมบำรุงผิวแล้วควรทำความสะอาดหน้าด้วยโฟมล้างหน้าที่มีค่า pHควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

2. โลชั่น (Lotion)

เนื้อโลชั่นมีลักษณะคล้ายครีมมาก แต่จะมีส่วนประกอบของน้ำ(Water)มากกว่าเนื้อครีม เพิ่มส่วนผสมของสาร Active Ingredientsวิตามิน หรือสารสกัดบำรุงผิวพรรณชนิดอื่นลงเนื้อโลชั่นได้ จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงผิวใหม่สวยกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม
“โลชั่น (Lotion)” เหมาะสำหรับผิวธรรมดา (Fluid) และผิวผสม ซึ่งผิวผสมเป็นผิวที่ค่อนข้างดูแลยาก หากเลือกใช้โลชั่นบำรุงผิวหน้า ควรทาในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากมีผิวมันบริเวณ T-Zone จึงต้องดูแลส่วนนี้เป็นพิเศษ

3. ซีรั่ม (Serum)

เนื้อซีรั่มส่วนใหญ่เป็นแบบใส มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา หากเทียบกับการบำรุงผิวชนิดอื่น เนื้อซีรั่ม คือสูตรที่พัฒนาให้มีความเข้มข้นของ Active Ingredientsสูงขึ้น และเห็นผลชัดเจนในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ ซึมซับการบำรุงเข้าสู่ผิวหนังได้เร็ว เพราะเป็น Water Based Product (มีน้ำเป็น Mediumต่างจากครีมและโลชั่น) มีการบำรุงอย่างล้ำลึกและเหมาะกับผิวทุกประเภท จึงไม่แปลกใจที่ Serumมีราคาที่สูงกว่าการบำรุงผิวชนิดอื่น

4. เจล (Gel)

มีลักษณะเนื้อสัมผัสคล้ายเจล ซึ่งเป็นสารประเภท Polymer โครงสร้างภายในเนื้อเจลสามารถอุ้มน้ำได้จำนวนมาก ด้วยคุณสมบัติของ Water Absorbentทำให้เจลบำรุงผิวประเภทนี้ส่วนใหญ่นำไปใช้บำรุงเพิ่มวิตามินและความชุ่มชื้นให้กับบริเวณใต้ดวงตา ลดรอยหมองคล้ำบริเวณใต้ดวงตาได้เป็นอย่างดี

5. ฟลูอิค (Fluid/Fluide) หรือเอสเซ้นส์ (Essence)

เป็นเนื้อซีรั่ม มีเนื้อสัมผัสเนื้อบางเบา แต่มีสีที่เข้มข้นมากกว่าซีรั่มทั่วไป เนื่องจากมีส่วนผสมเพิ่มความเข้มข้นในปริมาณสูงสุดด้วย Active Ingredientเป็น Water Basedซึมซับเร็ว เกลี่ยง่าย การบำรุงผิวมีประสิทธิภาพเห็นผลชัดยิ่งขึ้น

6. เนื้ออีมัลชั่น (Emulsion)

เราอาจไม่คุ้นเคยกับเนื้อผลิตภัณฑ์ประเภทนี้นัก แต่อีมัลชั่นถือเป็นอีกผลิตภัณฑ์ประเภทหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ อีมัลชั่นเหมือนเป็นโลชั่น และเจลผสมกัน มีความเข้มข้นแต่ก็ไม่ข้นจนเกินไปมีความบางเบาซึมง่ายแต่ก็ไม่ทำให้ผิวแห้ง มีส่วนผสมของน้ำที่ช่วยเรื่องความชุ่มขึ้นได้เป็นอย่างดีแต่ก็ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ

เนื้อครีมแต่ละแบบควรใช้บรรจุภัณฑ์แบบไหน?

เมื่อทุกคนทราบถึงประเภทของเนื้อครีมแต่ละแบบแล้ว ขั้นตอนต่อไปเรามาดูกันว่า เนื้อครีมแต่ละประเภทเหมาะกับ Packaging แบบไหนกันบ้าง

ประเภทครีม

ครีมส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบของน้ำมันทำให้เนื้อครีมยึดกัน เหนียวข้น สามารถเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ได้หลากหลายประเภท โดยบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและเป็นที่นิยม คือ กระปุกครีม, หลอดครีม ในส่วนของบรรจุภัณฑ์ประเภทขวดปั๊มหรือขวดปั๊มสุญญากาศควรคำนึงถึงความหนืดของครีมให้เหมาะสมกับคุณสมบัติของบรรจุภัณฑ์

ประเภทโลชั่น

โลชั่นมีความใกล้เคียงกับครีม เพียงแต่โลชั่น มีส่วนประกอบของน้ำ ผสมอยู่มากกว่า จะซึมเข้าผิวได้ดีกว่าแบบครีม ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ได้หลากหลายประเภทเหมือนบรรจุภัณฑ์ครีม โดยบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและเป็นที่นิยม คือ ขวดโลชั่น, ขวดปั๊ม, ขวดปั๊มสุญญากาศ, หลอดโลชั่น

ประเภทเจล

เจลไม่แตกต่างจากเซรั่มมากนัก แต่เพียงเจลมีสารประเภท Polymer ที่มีคุณสมบัติเก็บกักอุ้มน้ำไว้ได้เยอะ เมื่อทาลงบนผิวจึงทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นได้อย่างเต็มที่ บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและเป็นที่นิยม คือ หลอด, ขวดปั๊ม

ประเภทเอสเซนส์ (Essence)

เอสเซนส์ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ทำโมเลกุลของครีมหรือสารให้มีขนาดเล็กลง หรือที่คุ้นหูว่าแบบนาโน ซึ่งช่วยให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าผิวได้ดีขึ้น เน้นไปทำการบำรุงผิวจากภายใน ส่วนใหญ่จะอยู่รูปแบบ water base ซึ่งเป็นเนื้อผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงเซรั่มมาก มีความเข้มข้นสูง ซึมซาบเร็ว บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและเป็นที่นิยม คือ ขวด, ขวดปั๊ม, ขวดปั๊มสุญญากาศ, ขวดดรอปเปอร์ ส่วนบรรจุภัณฑ์ที่ควรหลีกเลี่ยง คือ หลอดแบบบีบ

ประเภทเซรั่ม

เซรั่มมีส่วนประกอบไม่ต่างกับครีมหรือโลชั่นข้างต้น แต่ด้วยส่วนประกอบเข้มข้นกว่า เนื้อเซรั่มจะมีเนื้อใส ลักษณะอาจคล้ายน้ำแต่มีความเหนียวอยู่ในนั้น เนื้อเซรั่มส่วนใหญ่จะบางเบา ซึมเร็ว บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและเป็นที่นิยม คือ ขวดปั๊ม, ขวดปั๊มสุญญากาศ, ขวดดรอปเปอร์, หลอดเซรั่ม โดยแบรนด์ส่วนใหญ่ มักเลือกบรรจุภัณฑ์ที่มีความสวยงาม เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุพรีเมี่ยม เช่น แก้ว หรือ อะคริลิค ซึ่งเนื้อครีมทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สามารถนำมาศึกษาและพิจารณาในการเลือกประเภทของบรรจุภัณฑ์ได้ส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยอาจจะยังมีเนื้อครีมอีกหลายแบบที่อาจมีบรรจุภัณฑ์ที่ควรเป็นแบบเฉพาะอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้น เจ้าของแบรนด์ควรทำการศึกษาและเลือกบรรจุภัณฑ์ให้รอบคอบที่สุด อย่างไรก็ตามสาระความรู้ทั้งหมดที่แอดมินนำมาฝากข้างต้น อาจจะเป็นตัวช่วยสำหรับคนที่กำลังมองหาความรู้ในการเลือกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งในการเลือกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางมาสร้างแบรนด์เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางที่น่าดึงดูดต่อสายตาอาจจะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายก็เป็นได้

หากคุณกำลังมองหาโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง รับผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางราคาโรงงาน พร้อมพิมพ์บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง Plasticpark เราพร้อมให้คำแนะนำในเรื่องของบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี

Plastic Park ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกบรรจุครีม หลอดครีม พร้อมพิมพ์ไม่จำกัดสี

พลาสติกพาร์ค เราเป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ทุกชนิด เช่น กระปุกบรรจุครีม หลอดครีม ขวดครีม หัวปั้ม หัวสเปรย์ เรามีรูปแบบของบรรจุภัณฑ์หลากหลายกว่า 1,500 รายการ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ด้วยราคาจากโรงงานโดยตรง ทั้งนี้ เรามีรูปแบบของสินค้าให้เลือกมากมายกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง /ขวดพลาสติก/ขวดเครื่องสำอาง / กระปุกบรรจุครีม / ขวดเซรั่ม /กระปุกสครับ /ตลับครีม / ขวดอโรม่า ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะนำไปต่อยอดสินค้าของแต่ละท่าน เพื่อสร้างความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่อยู่ด้านในได้อย่างลงตัว เราเชื่อว่า หากลูกค้าได้ข้อมูลที่เพียงพอ จะนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้อง ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้า และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้ บทความที่เกี่ยวข้อง