Branded Packaging ไม่ใช่แค่ห่อหุ้มสินค้าอีกต่อไปค่ะ แต่คือ “จุดสัมผัสแรก” ที่ลูกค้าจะจดจำแบรนด์ของคุณได้ตั้งแต่ยังไม่เปิดกล่อง ในยุคที่การแข่งขันสูงและผู้บริโภคเลือกซื้อด้วยสายตาเพียงไม่กี่วินาที ดังนั้น เราจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า “แพคเกจจิ้ง” ได้กลายเป็นเครื่องมือการตลาดทรงพลังที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ เพิ่มมูลค่า และทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นเหนือคู่แข่ง บทความนี้ Plastic Park จะพาเจ้าของแบรนด์ทุกคนไปเจาะลึกเทรนด์แพคเกจจิ้งครึ่งปีหลัง 2025 พร้อมทิศทางที่เจ้าของแบรนด์ทุกคนต้องรู้ ถ้าไม่อยากตกเทรนด์! ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไร มาติดตามไปพร้อม ๆ กันค่ะ
Branded Packaging ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพิ่มยอดขายด้วยแพคเกจจิ้งแบบมืออาชีพ
ในปัจจุบันมีการแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ขายต้องกระตุ้นยอดขายด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อเอาชนะคู่แข่งทางธุรกิจ โดยใช้เงินลงทุนทุ้มไปกับการผลิตสินค้าด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ เพราะเชื่อว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพของสินค้าและแบรนด์ได้ จนละเลยรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นองค์ประกอบเสริมให้สินค้ามีความน่าสนใจ นั่นคือ “บรรจุภัณฑ์” นั่นเอง
ทำไม “บรรจุภัณฑ์” จึงส่งผลต่อการตลาด?
หากพูดถึง บรรจุภัณฑ์ เราจะนึกถึงการออกแบบกล่องที่มีลายกราฟฟิกหรือรูปภาพที่สะท้อนให้เห็นตัวสินค้า รวมไปถึงข้อมูลต่างๆ ของสินค้าชนิดนั้น ดังนั้น การออกแบบกล่องจึงเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง ถ้ากล่องใส่สินค้ามีรูปแบบไม่ดึงดูดใจลูกค้า แบรนด์นั้นก็อาจจะไม่ได้รับความนิยม สุดท้ายผู้ขายต้องกระตุ้นยอดขายด้วยวิธีอื่น เช่น การลงโฆษณาสินค้าในสื่อต่างๆ ซึ่งเป็นวิธีการประชาสัมพันธ์ให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ได้ผลเพียงแค่ระยะสั้น เนื่องจากการโฆษณาเป็นสื่อที่ลูกค้าจับต้องได้ยาก ซึ่งสิ่งที่เป็นรูปธรรมและจับต้องได้มากกกว่า คือ บรรจุภัณฑ์
บรรจุภัณฑ์ คือปัจจัยหลักที่เป็นแรงสนับสนุนให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้านั้น หากผู้ขายสามารถออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความแตกต่างก็จะมีผลต่อการเติบโตทางธุรกิจ อีกทั้งยังเพิ่มยอดขายและสร้างมูลค่าของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี สิ่งสำคัญของการออกแบบบรรจุภัณฑ์ไม่ได้อยู่ที่การใช้งาน แต่เป็นการออกแบบที่ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ ถือเป็นการวางแผนการตลาดที่ลงทุนน้อยแต่สร้างมูลค่าได้มหาศาล
ทั้งนี้ จากผลการวิจัยสะท้อนให้เห็นว่า บรรจุภัณฑ์เป็นตัวแทนของแบรนด์ที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด ดังนั้น ผู้ผลิตควรออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สร้างความประทับใจพร้อมกับเชื่อมโยงความเป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ เพื่อพัฒนาแบรนด์ให้โดนใจผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งผลที่ตามมา คือ ยอดขายผลิตภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น จะเห็นได้ว่า การออกแบบบรรจุภัณฑ์จึงไม่ใช่เพียงแค่งานศิลปะอีกต่อไป แต่คือ การออกแบบแผนการตลาด เพื่อให้ได้ยอดขายที่ดีที่สุดนั่นเอง “ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์”
อัพเดทเทรนด์แพคเกจจิ้ง 2025 ครึ่งปีหลัง ที่น่าจับตามองมีอะไรบ้าง ทิศทางในการเลือกบรรจุภัณฑ์ในอนาคตจะไปในทางไหน?
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ในแวดวงธุรกิจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากสภาพแวดล้อมธุรกิจ การแข่งขัน และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ไม่เหมือนเดิม วงการบรรจุภัณฑ์ หรือแพคเกจจิ้ง (Packaging) ก็มีการปรับเปลี่ยนอย่างมากเช่นกัน สำหรับในปี 2568 เทรนด์การออกแบบแพคเกจจิ้งจะเปลี่ยนไปอย่างไรในยุคที่คนเริ่มหันมาใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งนักการตลาด, เจ้าของแบรนด์ และนักออกแบบ ต่างรู้ดี ปีหน้านี้ถือว่าเป็นปีที่เข้มข้นมากหลาย ๆ เรื่อง เช่น เรื่องสิ่งแวดล้อมนั้นได้ถูกผสมผสานเข้าไปในวิสัยทัศน์ขององค์กรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือแม้กระทั่งการโหยหาบรรจุภัณฑ์เต็มไปด้วยเรื่องราวและรายละเอียด รวมไปถึงโลกเสมือนที่เราจะเริ่มเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น เหล่านี้คือการเปลี่ยนแปลงที่พวกเรามองข้ามไปไม่ได้เลย ฉะนั้นรูปแบบหรือการดีไซน์บรรจุภัณฑ์จึงต้องแตกต่างออกไปกว่าแต่ก่อนด้วยนั่นเอง
1. Sustainable Packaging ที่เป็นมากกว่าคำว่า “รักษ์โลก”
บรรจุภัณฑ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมยังคงครองเทรนด์ ไม่ใช่แค่การใช้วัสดุที่รีไซเคิลได้เท่านั้น แต่รวมถึงการลดขั้นตอนการผลิต การออกแบบให้ใช้วัสดุน้อยลง และการสื่อสารเจตนารมณ์ของแบรนด์ที่มีต่อโลกผ่านแพคเกจจิ้งอย่างชัดเจน ผู้บริโภคยุคใหม่คาดหวังให้แบรนด์ “ลงมือทำจริง” ไม่ใช่แค่ “พูดว่าห่วงใย”
2. Emotional Packaging ที่เล่าเรื่องได้
ผู้บริโภคยุคดิจิทัลมองหาประสบการณ์ ไม่ใช่แค่สินค้า แพคเกจจิ้งจึงกลายเป็น Storytelling Platform ชั้นดี ปี 2025 เราจะเห็นการออกแบบที่เน้น “ความรู้สึก” มากขึ้น เช่น โทนสีที่ปลอบประโลมใจ ฟอนต์ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น หรือแม้แต่กล่องที่มี QR Code ให้ลูกค้าเข้าไปดูเบื้องหลังการผลิตหรือที่มาของแรงบันดาลใจ
3. Digital Integration กับบรรจุภัณฑ์
โลกเสมือน (Virtual World) และเทคโนโลยี AR/QR Code จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ต้องการเชื่อมต่อกับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการสแกนเพื่อเข้าถึงคลิปเบื้องหลังสินค้า รับส่วนลด หรือเข้าร่วมกิจกรรม Loyalty Program ทั้งหมดนี้ถูกซ่อนอยู่ใน “แพคเกจ” ที่ดูเหมือนธรรมดาแต่เต็มไปด้วยมิติการสื่อสารที่ลึกซึ้ง
4. Minimal but Distinctive ที่เรียบง่ายแต่ลูกค้าจำได้
หลังจากยุคของดีไซน์ที่อัดแน่นไปด้วยองค์ประกอบ ปีนี้แนวโน้มการออกแบบบรรจุภัณฑ์จะกลับสู่ความเรียบง่าย (Minimalist) แต่ยังคงเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างชัดเจน โดยเน้นโลโก้ที่โดดเด่น สีประจำแบรนด์ที่จำง่าย และ Typography ที่สะอาดตา เพื่อสร้างการจดจำในเสี้ยววินาที
5. Packaging คือ Marketing Asset
ในยุคที่ค่าโฆษณาออนไลน์พุ่งสูง แบรนด์จำนวนมากเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับ “แพคเกจจิ้งที่ถ่ายรูปขึ้น” หรือถ่ายแล้วอยากแชร์ลงโซเชียล แพคเกจจิ้งจึงกลายเป็นเครื่องมือทำไวรัลอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าความงาม ไลฟ์สไตล์ และของขวัญ อย่างไรก็ตาม เทรนด์แพคเกจจิ้งในครึ่งปีหลัง 2025 ไม่ได้เน้นแค่ความสวยงามอีกต่อไป แต่ต้องตอบโจทย์ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม ความรู้สึกของผู้บริโภค และการสื่อสารแบรนด์แบบสร้างสรรค์ แพคเกจจิ้งจึงกลายเป็นทั้ง “หน้าตา” และ “กลยุทธ์ทางการตลาด” ที่เจ้าของแบรนด์ไม่ควรมองข้าม ใครปรับตัวได้เร็ว ย่อมได้เปรียบก่อนในใจลูกค้าเสมอค่ะ
5 เทคนิคออกแบบ Packaging ให้ตอบโจทย์ทางการตลาด กระตุ้นยอดขายให้พุ่งกระฉูด
แน่นอนว่าเทรนด์หรือการตลาดนั้นเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ซึ่งในปัจจุบันเทคนิคการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้น่าสนใจที่แบรนด์ควรนำไปปรับใช้ประกอบด้วย 5 เทคนิค ดังนี้…
1.น้อย เรียบ ชัด
เทรนด์นี้ยังคงเป็นเทรนด์ของโลกอย่างต่อเนื่อง มันคือความเรียบง่าย แต่ความเรียบง่ายที่ว่านี้มันเพิ่มเติมมาจากโลกที่กำลังฟื้นตัวจากการระบาดของโควิด แม้ว่าร้านค้าจะกลับมาเปิด แต่พฤติกรรมของผู้คนยังคงซื้อของออนไลน์อยู่ แต่บางส่วนเริ่มกลับมาซื้อของ Offline กันมากขึ้น ซึ่งถือเป็นการโดดเด่นในหลายๆ Platform ทั้งหน้าร้านและในออนไลน์ โดยแบรนด์จะต้องมีการออกแบบและสร้างสรรค์สินค้าและบรรจุภัณฑ์ที่เน้นความเรียบง่ายและชัดเจนอย่างมากขึ้น เพื่อช่วยเพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดความสนใจของลูกค้า โดยอาจจะใช้สีที่เด่นชัดและเข้มข้นเพื่อเป็นจุดเด่นหรือการใช้ตัวอักษรใหญ่และการมี QR Code เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลสินค้าได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
2.แสดงถึงตัวตนของแบรนด์
ทุกวันนี้ไม่เพียงแต่บรรจุภัณฑ์ที่มีบทบาทสำคัญ ยังรวมไปถึงการทำ Brand Identity ที่สามารถจะออกแบบอัตลักษณ์ให้กลายเป็นภาพจำให้คนจดจำได้ เช่น สี รูปทรง ตัวอักษร โลโก้ ภาพถ่าย และ ไอคอนต่างๆ เพื่อให้สามารถสื่อความหมายและความต้องการของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความเป็นเอกลักษณ์และเป็นที่จดจำของ Iconic &
Visual Identity ที่ออกแบบ เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำและรู้จักแบรนด์ของเราได้ง่ายขึ้น ในที่สุด Iconic & Visual Identity จะเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพของแบรนด์ให้กับผู้บริโภคด้วย
3.คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
องค์ประกอบหนึ่งของบรรจุภัณฑ์ที่พวกเราต้องคำนึงถึงเพราะแบรนด์ระดับโลกส่วนใหญ่จะนำเอาเรื่องสิ่งแวดล้อมเข้าไปเป็นพันธกิจของบริษัทกันทั้งหมดในอนาคตอันใกล้นี้ จากที่ได้บอกไปว่าผู้บริโภคในปัจจุบันมีแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับสัตว์ สิ่งแวดล้อม เป็นอย่างมาก ดังนั้น แบรนด์ไหนที่ให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ก็จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นพิเศษ
4.เล่นกับประเด็นสังคม
เทรนด์นี้ยังคงมีความต่อเนื่องมาจาก 2 ปีที่แล้ว เพราะหลาย ๆ ประเด็นที่เป็น Social Issues นั้นยังค่อย ๆ รับการแก้ไขในภาพกว้าง หลาย ๆ แบรนด์เริ่มลุกขึ้นมาป่าวประกาศว่า จุดยืนเรานั้น ยอมรับความหลายหลายของบุคคล ไม่ว่าจะเป็น เรื่องเพศสภาพ, ทุกพลภาพ, ชาติพันธุ์, อายุ , สีผิว และความเหลื่อมล้ำ เป็นต้น
5. ใช้ Fonts ตัวอักษรให้เหมาะสมกับแบรนด์
Fonts ตัวอักษร สำคัญมากบนบรรจุภัณฑ์ เพราะเป็นส่วนที่บอกรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ชื่อแบรนด์ สรรพคุณ จุดขาย และรายละเอียดส่วนผสมต่าง ๆ จุดนี้เอง จึงอาจต้องไปทบทวนมาก่อนว่า กลุ่มลูกค้าของเรานั้น คือใคร เป็นกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา หรือวัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ที่มีกำลังซื้อเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถกำหนดทิศทางในการใช้ Fonts ได้ถูก ว่าควรใช้แบบที่มีลูกเล่น เป็นกันเอง หรือ แบบหรูหรา มีมูลค่า มากกว่ากัน ท้ายที่สุด ผู้ประกอบการของแบรนด์ต่าง ๆ ต้องรู้ดีอยู่แล้วว่าแพ็กเกจจิ้งคือส่วนหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า อย่างสินค้าบางชนิดคุณภาพดี แต่ที่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแพ็กเกจจิ้งไม่ดึงดูดนักช้อป ดังนั้นการออกแบบแพ็กเกจจิ้งจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม และความชอบของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทำให้มีเทรนด์หลาย ๆ อย่างของแต่ละปีเกิดขึ้น ดังนั้น Plastic Park จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเทรนด์การออกแบบแพ็คเกจจิ้งปี 2023 ที่เรานำฝากจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของแบรนด์เพื่อนำไปสร้างสรรค์สินค้าและทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อโดยไม่ลังเล
หากผู้ประกอบการที่กำลังสร้างแบรนด์สินค้าและมองหาโรงงาน
รับผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางคุณภาพ Plasticpark เรารับ
ผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง จำหน่ายบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางปลีก – ส่ง ราคาโรงงานมีสินค้าให้เลือกมากกว่า 1,500 รายการ พร้อมบริการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ เรามีความเข้าใจในความต้องการของท่าน เรายินดีให้คำแนะนำ ตอบข้อซักถาม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของท่านตรงกับความต้องการ ทั้งในส่วนของการใช้งานและสร้างจุดแตกต่างให้เหนือกว่าคู่แข่ง
Plastic Park ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกบรรจุครีม หลอดครีม พร้อมพิมพ์ไม่จำกัดสี
พลาสติกพาร์ค เราเป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ทุกชนิด เช่น กระปุกบรรจุครีม หลอดครีม ขวดครีม หัวปั้ม หัวสเปรย์ เรามีรูปแบบของบรรจุภัณฑ์หลากหลายกว่า 1,500 รายการ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ด้วยราคาจากโรงงานโดยตรง ทั้งนี้ เรามีรูปแบบของสินค้าให้เลือกมากมายกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง /ขวดพลาสติก/ขวดเครื่องสำอาง / กระปุกบรรจุครีม / ขวดเซรั่ม /กระปุกสครับ /ตลับครีม / ขวดอโรม่า ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะนำไปต่อยอดสินค้าของแต่ละท่าน เพื่อสร้างความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่อยู่ด้านในได้อย่างลงตัว เราเชื่อว่า หากลูกค้าได้ข้อมูลที่เพียงพอ จะนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้อง ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้า และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้ บทความที่เกี่ยวข้อง