Bio Packaging กับ 5 ธุรกิจสาย Green ที่ต้องเลือกใช้แพคเกจรูปแบบนี้!

“Bio Packaging”  เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่กำลังมาแรงเลยก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าในยุคที่สิ่งแวดล้อมกลายเป็นประเด็นสำคัญ ธุรกิจที่มุ่งสู่ความยั่งยืนจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวทางรักษ์โลก หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญคือการเลือกใช้ Bio Packaging หรือ บรรจุภัณฑ์ชีวภาพ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยลงอย่างชัดเจน และนอกจากนี้ในมุมการตลาด การใช้แพคเกจจิ้งรูปแบบนี้ยังทำให้ผู้บริโภครู้สึกดีและอยากสนับสนุนแบรนด์นั้น ๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข้อดีอยู่มากตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น แต่ก็ใช้ว่า Bio Plastic จะสามารถนำมาใช้ได้กับทุก ๆ ธุรกิจ และเพื่อให้เจ้าของแบรนด์ได้ทราบถึงความเหมาะสมในการนำแพคเกจจิ้งรูปแบบนี้ไปใช้มากที่สุด Plastic Park จึงนำตัวอย่าง 5 ธุรกิจสายรักษ์โลกมานำเสนอเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับทางแบรนด์ต่อไปค่ะ

Bio Packaging กับ 5 ธุรกิจสาย Green ที่ต้องเลือกใช้แพคเกจรูปแบบนี้!

Bio Packaging อีกหนึ่งแพคเกจเทรนด์รักษ์โลกที่หลาย ๆ ธุรกิจห้ามมองข้าม!

“บรรจุภัณฑ์สมัยใหม่กับเทรนด์รักษ์โลกที่กำลังมาแรง” ถือเป็นเทรนด์ตอบโจทย์ผู้ซื้อยุคใหม่มากที่สุด เป็นโจทย์ที่เจ้าของแบรนด์ในยุคนี้ต้องตระหนักและทำการบ้านให้ดีทีเดียว เนื่องจากในปัจจุบันผู้บริโภคมีพฤติกรรมหรือเทสในการเลือกซื้อสินค้าที่แตกต่างออกไปจากเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก จากที่เคยตระหนักเพียงแค่คุณภาพของสินค้า แต่เดี๋ยวนี้ผู้ซื้อหันมาใส่ใจตัวแบรนด์เพิ่มขึ้นด้วย เช่น แบรนด์มีส่วนร่วมเพื่อสังคมมากแค่ไหน แบรนด์ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้มมากแค่ไหน แบรนด์ทำการทดลองสินค้ากับสัตว์หรือไม่ ฯลฯ

ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้แม้จะดูเป็น Topic เล็ก ๆ แต่มันก็สามารถทำให้ผู้ซื้อเปลี่ยนใจได้เลย โดยถ้าหากจะให้ผู้บริโภครู้จักเกี่ยวกับแบรนด์ได้ลึกขนาดนี้ สิ่งแรกที่แบรนด์ต้องทำก็คือ การทำให้ผู้บริโภคเห็นแบรนด์ให้ได้ก่อน ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่จะเป็น First Impresssion ได้ดีก็คือ บรรจุภัณฑ์ หรือ แพคเกจจิ้ง ที่ค่อนข้างต้องมีความโดดเด่นพอตัว เพื่อให้เป็นที่น่าสนใจของผู้บริโภคนั่นเอง ซึ่งเราจะสามารถนำเทรนด์นี้มาปรับใช้กับบรรจุภัณฑ์ของเราได้อย่างไรบ้าง Plastic Park นำข้อมูลมาฝากแล้วค่ะ

มาทำความรู้จัก Bio Based Packaging บรรจุภัณฑ์ในเทรนด์รักษ์โลกที่เจ้าของแบรนด์ควรทำความรู้จัก

โดยทั่วไปแล้ว เราจะรู้กันดีว่าวัสดุแบบพลาสติกนั้นไม่นิยมนำมาร่วมกับแคมเปญเพื่อสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ได้เลย เพราะเป็นวัสดุที่ย่อยสลายยาก ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลาย ๆ คนจะรู้สึกว่า “พลาสติก” ไม่ใช่วัสดุที่ใกล้เคียงกับคำว่าบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนเลยแม้แต่น้อย แต่แท้จริงแล้ววัสดุอย่างพลาสติกก็สามารถถูกพัฒนาหรือเลือกนำมาใช้ให้เป็น  Sustainable Packaging ได้เช่นกัน โดยผ่านการนำวัสดุหรือพลาสติกอย่าง Bio Based เข้ามาใช้ ซึ่งเจ้า Bio Based นี้ คืออะไร มีข้อดีอย่างไร และนำมาทำเป็น Packaging ใดได้บ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันค่ะ

ไบโอพลาสติก คืออะไร?

ไบโอพลาสติกมีลักษณะคล้ายพลาสติกที่ทำมาจากพืช จึงสามารถย่อยสลายเป็นขยะได้และย่อยสลายทางชีวภาพได้ วัสดุเหล่านี้จึงมีปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ต่ำ โดยวัสดุยอดนิยมที่ใช้ทำไบโอพลาสติก อาทิ สาหร่าย ข้าวโพด แป้งข้าวโพด ถั่ว ต้นอ้อย และรากผักต่าง ๆ พืชเหล่านี้สามารถแพร่พันธุ์และเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไบโอพลาสติกไม่เป็นพิษต่อมนุษย์และสัตว์อื่นๆ แต่ไม่แนะนำให้รับประทานเพราะวัสดุที่ใช้ทำบางชนิดไม่สามารถรับประทานได้ ทั้งนี้ ไบโอพลาสติกใช้เวลาย่อยสลายประมาณ 3-6 เดือน ดังนั้นหากไบโอพลาสติกกลายเป็นขยะตามธรรมชาติ ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่าขยะพลาสติกทั่วไป เพราะไบโอพลาสติกไม่ได้ทำมาจากสารพิษที่เป็นอันตราย โดยข้อเสียของไบโอพลาสติกคือราคาสูงกว่าพลาสติกทั่วไป ซึ่งก็เป็นราคาที่ต้องจ่ายเพื่อความยั่งยืนค่ะ

3 คุณสมบัติที่สำคัญของ Bio-based Packaging

บรรจุภัณฑ์ชีวภาพมีคุณสมบัติเด่นที่สอดคล้องกับความต้องการของโลกในปัจจุบัน ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน โดยคุณสมบัติหลักของบรรจุภัณฑ์ชนิดนี้ก็มีหลายประการด้วยกันค่ะ ได้แก่…

1.ย่อยสลายได้ (Biodegradable)

สามารถสลายตัวได้โดยธรรมชาติเมื่อหมดอายุการใช้งาน โดยไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

2.ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ใช้วัตถุดิบจากแหล่งทรัพยากรหมุนเวียน (renewable resources) เช่น พืชที่ปลูกขึ้นใหม่ ช่วยลดการปล่อย CO₂ ในกระบวนการผลิต

3.สามารถรีไซเคิลหรือใช้ซ้ำได้

วัสดุชีวภาพบางประเภทสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ช่วยลดปริมาณขยะและส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ Bio-based Packaging กลายเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งภาคธุรกิจและความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมนั่นเองค่ะ

มาดูกัน! 5 ธุรกิจสายรักษ์โลกที่ควรใช้บรรจุภัณฑ์ไบโอพลาสติก ยิ่งใช้ ยิ่งปัง

ในปัจจุบัน กระแสรักษ์โลกและความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (Sustainability) และการลดขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว (Single-Use Plastic)

ซึ่งหนึ่งในแนวทางสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความแตกต่าง และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้ คือการเลือกใช้ บรรจุภัณฑ์ชีวภาพ (Bio Packaging) ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้ง่าย หรือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยเฉพาะใน 5 ประเภทธุรกิจต่อไปนี้ที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากกระแสรักษ์โลกอย่างชัดเจน ซึ่งประกอบด้วย…

1. ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B)

เช่น ร้านอาหารและคาเฟ่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมักเลือกใช้ หลอดน้ำชีวภาพ, กล่องข้าวจากชานอ้อย, แก้วน้ำที่ย่อยสลายได้ เพื่อช่วยลดขยะพลาสติก ตัวอย่างเช่น ร้านกาแฟที่เปลี่ยนมาใช้แก้วที่ทำจากวัสดุ PLA

  • หลอดน้ำชีวภาพ (Biodegradable Straws) ทำจากข้าวหรือพืชธรรมชาติ ลดปัญหาขยะพลาสติกในมหาสมุทร
  • แก้วน้ำและภาชนะที่ย่อยสลายได้ (Compostable Cups & Containers) ผลิตจากวัสดุ PLA หรือเยื่อพืช เช่น ชานอ้อย และข้าวโพด
  • กล่องข้าวและถ้วยอาหารจากวัสดุธรรมชาติ เช่น กล่องจากชานอ้อย หรือกระดาษเคลือบ PLA ที่ย่อยสลายได้

เนื่องจากร้านอาหาร คาเฟ่ และธุรกิจเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้จะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับแรงกดดันจากผู้บริโภคให้ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ดังนั้น ธุรกิจในกลุ่มนี้จึงต้องเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากขึ้นนั่นเอง 

2. ธุรกิจเครื่องสำอางและสกินแคร์

ธุรกิจความงามเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากกระแสรักษ์โลกอย่างมาก เพราะผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่มีแนวทางด้าน “ความงามที่ยั่งยืน” (Sustainable Beauty) ซึ่งหมายถึงการเลือกใช้ส่วนผสมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ลดขยะ เช่น…

  • กระปุกครีมจากวัสดุรีไซเคิล เช่น กระดาษรีไซเคิล หรือพลาสติกที่ผลิตจากพืช
  • ขวดแก้วที่สามารถนำกลับมาเติมได้ (Refillable Glass Bottles) ลดขยะจากบรรจุภัณฑ์พลาสติก
  • ซองผลิตภัณฑ์แบบ Biodegradable ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ

ทั้งนี้ สำหรับแบรนด์ไหนที่เป็นแบรนด์ที่เน้น “ความยั่งยืน” เลือกใช้บรรจุภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ กระดาษรีไซเคิล หรือขวดแก้วที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ มีแคมเปญจากทางแบรนด์ เช่น ลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เน้นใช้ขวดแก้วหรือพลาสติกที่นำมารีเคิลเคิลได้มาแลกส่วนลด ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีจูงใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ค่ะ

3. ธุรกิจแฟชั่นและเครื่องประดับ

อุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ก่อให้เกิดขยะมหาศาล ทั้งจากเสื้อผ้าและบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการจัดส่งสินค้า ธุรกิจแฟชั่นที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ “แฟชั่นที่ยั่งยืน” (Sustainable Fashion) จึงเริ่มเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น..

  • กล่องกระดาษคราฟท์ที่ย่อยสลายได้ แทนกล่องพลาสติก
  • ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำกลับมาใช้ใหม่
  • ซองไปรษณีย์ที่ทำจากวัสดุชีวภาพ (Compostable Mailers) ย่อยสลายได้ 100%

จากตัวอย่างแพคเกจดังกล่าว แบรนด์เสื้อผ้าออร์แกนิกและเครื่องประดับที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมักใช้ กล่องบรรจุภัณฑ์จากกระดาษคราฟท์ หรือถุงผ้าแทนพลาสติก รวมถึงซองไปรษณีย์ที่ย่อยสลายได้ เพื่อส่งเสริมแนวคิด Zero Waste ค่ะ ซึ่งมักจะได้รับกระแสที่ค่อนข้างดี เพราะคุณผู้หญิงส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับทั้งสินค้าและแพคเกจจิ้งด้วย โดยมักจะบอกต่อ ๆ กันถึงคุณภาพสินค้าและ

4. ธุรกิจสินค้าออร์แกนิกและสุขภาพ

ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสินค้าออร์แกนิกมักมีภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกับความยั่งยืนอยู่แล้ว แต่หากบรรจุภัณฑ์ยังใช้พลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ ก็อาจขัดแย้งกับแนวคิดหลักของสินค้า ดังนั้น แบรนด์ในกลุ่มนี้จึงควรเลือกใช้ ไบโอแพคเกจ ค่ะ เช่น…

  • ขวดพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic Bottles) ที่ทำจากพืช เช่น อ้อยหรือข้าวโพด
  • ซองบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ สำหรับชา กาแฟ หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
  • ขวดแก้วหรืออลูมิเนียมที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสินค้าเพื่อสุขภาพหลายแบรนด์เลือกใช้ ขวดจากพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic Bottles) หรือบรรจุภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ เช่น น้ำยาล้างจานจากพืชที่บรรจุในขวด PLA ซึ่งมีความสามารถในการย่อยสลายได้ดี ซึ่งก็จะสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดีขึึ้นไปอีกค่ะ

5. ธุรกิจขนส่งและอีคอมเมิร์ซ

อุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ก่อให้เกิดขยะบรรจุภัณฑ์จำนวนมหาศาลจากการขนส่งสินค้าออนไลน์ การเปลี่ยนมาใช้ บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ เช่น…

  • กล่องพัสดุรีไซเคิล ผลิตจากกระดาษลูกฟูกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่
  • เทปกาวกระดาษ (Paper Tape) แทนเทปพลาสติก ที่สามารถย่อยสลายได้
  • ซองพัสดุจากพืช (Compostable Mailers) ใช้วัสดุที่สามารถย่อยสลายทางชีวภาพ

ซึ่งธุรกิจออนไลน์และขนส่งสินค้าหันมาใช้ กล่องพัสดุรีไซเคิล, เทปกาวกระดาษแทนพลาสติก ตัวอย่างเช่น Amazon ที่มีนโยบาย Frustration-Free Packaging เพื่อลดขยะจากบรรจุภัณฑ์ ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ทั้งในส่วนบริการและสร้างแรงกระตุ้นในการใช้บริการกับทางแบรนด์ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากทีเดียวค่ะ

 อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมาจะเห็นได้แล้วว่า การใช้ Bio Packaging ไม่เพียงแต่ช่วยลดขยะและรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ดังนั้น ธุรกิจที่ต้องการสร้างความแตกต่างควรเริ่มต้นปรับตัวตั้งแต่วันนี้ เพราะ “บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม” ด้วยค่ะ

ข้อดีของ Bio Packaging ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจ

ปัจจุบัน ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ บรรจุภัณฑ์ชีวภาพ (Bio Packaging) ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ ทั้งในแง่ของภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่นของลูกค้า และความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

1. สร้างภาพลักษณ์ที่ดี แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

การเลือกใช้ Bio Packaging ช่วยให้ธุรกิจแสดงถึง ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (Corporate Social Responsibility: CSR) ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคยุคใหม่

  • สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง แบรนด์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้หรือรีไซเคิลได้ง่าย มักได้รับการจดจำและชื่นชมมากกว่าแบรนด์ที่ยังคงใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว
  • ช่วยให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ ลูกค้าจะมองว่าแบรนด์มีความใส่ใจต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบทางลบต่อโลก
  • เพิ่มโอกาสในการร่วมมือกับองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม หลายองค์กรที่สนับสนุนความยั่งยืนอาจเลือกจับมือกับแบรนด์ที่มีแนวทางเดียวกัน

2. ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า Eco-conscious ที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ

Eco-conscious Consumers หรือ กลุ่มลูกค้ารักษ์โลก เป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีแนวโน้มเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

  • กระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ผู้บริโภคมักเลือกแบรนด์ที่ให้ทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แม้ราคาสูงกว่าเล็กน้อย
  • เพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมีแนวโน้มที่จะซื้อซ้ำและแนะนำแบรนด์ให้กับผู้อื่น
  • ดึงดูดลูกค้ากลุ่ม Millennials และ Gen Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคม และมองหาแบรนด์ที่มีจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อม

3. ช่วยให้ธุรกิจเป็นไปตามมาตรฐาน ESG และแนวโน้มกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้น

แนวทาง ESG (Environmental, Social, and Governance) กำลังกลายเป็นมาตรฐานสำคัญสำหรับองค์กรทั่วโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการดึงดูดนักลงทุนและขยายตลาดไปยังประเทศที่มีกฎหมายสิ่งแวดล้อมเข้มงวด

  • สอดคล้องกับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Regulations) หลายประเทศกำลังออกกฎหมายห้ามใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และกำหนดให้ธุรกิจต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดสากล แบรนด์ที่ปรับตัวตามมาตรฐาน ESG มีโอกาสขยายธุรกิจไปยังตลาดยุโรปและอเมริกาได้ง่ายขึ้น
  • ลดความเสี่ยงจากค่าปรับและข้อจำกัดทางกฎหมาย หากธุรกิจไม่ปรับตัวตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม อาจถูกจำกัดโอกาสในการดำเนินธุรกิจในบางประเทศ

แม้ว่าจะสามารถส่งผลดีต่อทางแบรนด์อย่างเห็นได้ชัดในหลาย ๆ มิติ การใช้ Bio Packaging ไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อมเท่านั้นค่ะ แต่เป็นโอกาสทางธุรกิจ ที่ช่วยสร้างความแตกต่างในตลาด เพิ่มความภักดีของลูกค้า และป้องกันความเสี่ยงจากกฎหมายที่เข้มงวดขึ้น ซึ่งหากธุรกิจที่เริ่มเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่วันนี้ จะได้เปรียบในการแข่งขันและมีโอกาสเติบโตในระยะยาวค่ะ

ท้ายที่สุด ขอสรุปอีกครั้งค่ะว่า การใช้ Bio Packaging ไม่ใช่เพียงการปรับตัวตามกระแส แต่เป็น กลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตในระยะยาว นอกจากช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเป็นโอกาสในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำในกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจธรรมชาติ การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และเป็นก้าวสำคัญสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนในอนาคตนะคะ

Plastic Park ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกครีม หลอดครีม พร้อมพิมพ์ไม่จำกัดสี

พลาสติกพาร์ค เราเป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ทุกชนิด เช่น กระปุกครีม หลอดครีม ขวดครีม หัวปั้ม หัวสเปรย์ เรามีรูปแบบของบรรจุภัณฑ์หลากหลายกว่า 1,500 รายการ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ด้วยราคาจากโรงงานโดยตรง ทั้งนี้ เรามีรูปแบบของสินค้าให้เลือกมากมายกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง /ขวดพลาสติก/ขวดเครื่องสำอาง / กระปุกครีม / ขวดเซรั่ม /กระปุกสครับ /ตลับครีม / ขวดอโรม่า ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะนำไปต่อยอดสินค้าของแต่ละท่าน เพื่อสร้างความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่อยู่ด้านในได้อย่างลงตัว เราเชื่อว่า หากลูกค้าได้ข้อมูลที่เพียงพอ จะนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้อง ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้า และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เกณฑ์การเลือกบริษัทบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางค์ที่เชื่อถือได้

3 สิ่งควรรู้ก่อนสั่งทำบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

เลือกใช้กระปุกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางแบบไหนดีนะ ?

PlasticPark ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกครีม
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.