Eco-packaging กับ พลาสติกชีวภาพ ต่างกันยังไง?

Eco-packaging คือแนวคิดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคที่คนทั่วโลกเริ่มตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและขยะพลาสติกมากขึ้น บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติ ทั้งในด้านการผลิต การใช้งาน และการจัดการหลังใช้งาน อย่างไรก็ตาม หลายคนยังสับสนระหว่าง Eco-packaging กับพลาสติกชีวภาพ ซึ่งจริง ๆ แล้วทั้งสองมีความแตกต่างกันในแง่ของวัสดุและแนวทางการใช้งานอย่างไร วันนี้เราจะพาไปรู้จักและเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Eco-packaging กับ พลาสติกชีวภาพ เพื่อช่วยให้เจ้าของแบรนด์ทุกคนสามารถเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมและตอบโจทย์ทั้งการรักษ์โลกและประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

Eco-packaging VS พลาสติกชีวิภาพ แตกต่างกันยังไง เลือกใช้แบบไหนให้ตอบโจทย์การเป็นแบรนด์ในยุคนี้?

ในยุคที่ผู้บริโภคและเจ้าของแบรนด์ต่างตื่นตัวกับประเด็นสิ่งแวดล้อม คำว่า “Eco-packaging” และ “พลาสติกชีวภาพ” กลายเป็นคำที่ถูกพูดถึงบ่อยครั้งในวงการบรรจุภัณฑ์ แต่หลายคนอาจยังสับสนว่า สองคำนี้หมายถึงสิ่งเดียวกันหรือไม่ และควรเลือกใช้แบบไหนให้เหมาะกับธุรกิจของตัวเอง บทความนี้ Plastic Parkจะพาเจ้าของแบรนด์ทุกคนไปทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Eco-packaging และ พลาสติกชีวภาพ อย่างชัดเจน พร้อมแนวทางเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสินค้าและความยั่งยืนในระยะยาวค่ะ

ทำความรู้จักกันก่อน Eco-Packaging และ พลาสติกชีวภาพ (Bio-Plastic)

แม้จะดูมีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก แต่บรรจุภัณฑ์ทั้ง 2 รูปแบบนี้มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควรค่ะ โยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้…

Eco-packaging คืออะไร?

Eco-packaging หรือ บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก หมายถึงบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ตลอดทั้งวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่กระบวนการผลิต การใช้งาน ไปจนถึงการกำจัดหลังใช้งาน โดยมุ่งเน้นให้เกิดการ ลดการใช้ทรัพยากร, นำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse), รีไซเคิลได้ (Recycle) หรือ ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ

โดยประเภทของ Eco-packaging ก็มีหลากหลายทีเดียวค่ะ เช่น…

• บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากกระดาษรีไซเคิล
• กล่องกระดาษไร้เคลือบ
• บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบให้ใช้วัสดุน้อยที่สุด
• พลาสติกชีวภาพ หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้เองในธรรมชาติ (ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกของ Eco-packaging)

สรุปคือ Eco-packaging เป็นแนวคิดกว้างที่ครอบคลุมบรรจุภัณฑ์ทุกประเภทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะทำจากวัสดุธรรมชาติ รีไซเคิลได้ หรือสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ก็ตาม

พลาสติกชีวภาพ คืออะไร?

พลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) เป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่มาจาก ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย หรือวัสดุชีวภาพอื่น ๆ แทนการใช้ปิโตรเลียมเหมือนพลาสติกทั่วไป

โดยพลาสติกชีวภาพแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ค่ะ ได้แก่…

1.Biobased Plastic

ผลิตจากพืชหรือวัตถุดิบธรรมชาติ แต่ไม่จำเป็นต้องย่อยสลายได้ค่ะ ตัวอย่างเช่น Bio-PE, Bio-PET ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายพลาสติกทั่วไป แต่มาจากแหล่งที่สามารถปลูกทดแทนได้

2.Biodegradable Plastic

พลาสติกที่สามารถย่อยสลายได้เองโดยธรรมชาติ หรือโดยกระบวนการที่ใช้จุลินทรีย์ ตัวอย่างเช่น PLA (Polylactic Acid) ที่มาจากแป้งข้าวโพด ซึ่งสามารถย่อยสลายได้ในสภาวะเหมาะสมค่ะ ซึ่งจะย่อยเร็วหรือช้านั้นก็จะขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการย่อยสลายของพลาสติกชนิดนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม การย่อยสลายของพลาสติกชีวภาพบางชนิดจำเป็นต้องอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมเฉพาะที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น ดังนั้นไม่ใช่ทุกชนิดที่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติทั่วไปค่ะ

ความแตกต่างระหว่าง Eco-packaging กับ พลาสติกชีวภาพ

แม้คำว่า “Eco-packaging” และ “พลาสติกชีวภาพ” จะมักถูกใช้ร่วมกันหรือแทนกันในบางบริบท แต่ในความเป็นจริง ทั้งสองคำมีความหมายและขอบเขตที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนค่ะ

Eco-packaging

เป็นคำที่ใช้เรียกรวมแนวคิดหรือประเภทของบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยอาจเน้นที่การใช้วัสดุรีไซเคิล วัสดุธรรมชาติ หรือบรรจุภัณฑ์ที่ลดการใช้พลาสติกให้มากที่สุด จุดสำคัญของ Eco-packaging คือการมองภาพรวมของวงจรชีวิตของบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการผลิต การใช้งาน หรือการจัดการหลังใช้งาน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

 พลาสติกชีวภาพ

สำหรับพลาสติกชีวภาพนั้นจะเป็นเพียงหนึ่งในวัสดุที่สามารถนำมาใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์แบบ Eco-packaging ได้ แต่ตัวพลาสติกชีวภาพเองนั้นมีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า เพราะหมายถึงพลาสติกที่ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ เช่น แป้งข้าวโพด อ้อย หรือมันสำปะหลัง ซึ่งแตกต่างจากพลาสติกทั่วไปที่ผลิตจากปิโตรเลียม

อีกหนึ่งจุดที่หลายคนอาจยังไม่ทราบคือ พลาสติกชีวภาพไม่จำเป็นต้องย่อยสลายได้เสมอไป พลาสติกชีวภาพบางชนิด เช่น Bio-PET หรือ Bio-PE มีคุณสมบัติทางกายภาพใกล้เคียงกับพลาสติกดั้งเดิม และไม่สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ ต่างจากพลาสติกชีวภาพประเภทที่สามารถย่อยสลายได้ (Biodegradable Plastic) เช่น PLA ซึ่งจะสลายตัวได้เมื่ออยู่ในสภาวะเฉพาะ เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมที่ควบคุมอุณหภูมิและความชื้น

โดยสรุป Eco-packaging เป็นแนวคิดที่กว้างกว่า และครอบคลุมไปถึงการเลือกใช้วัสดุต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ โลหะ แก้ว ไม้ไผ่ หรือแม้แต่พลาสติกชีวภาพ ขณะที่พลาสติกชีวภาพ เป็นเพียงวัสดุทางเลือกหนึ่งในกลุ่มของ Eco-packaging ที่เหมาะสำหรับแบรนด์ที่ยังต้องการคุณสมบัติของพลาสติก แต่ต้องการลดการใช้ทรัพยากรฟอสซิลและมองหาทางเลือกที่ยั่งยืนกว่า

การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเลือกบรรจุภัณฑ์ได้อย่างตรงจุด ไม่เพียงแค่ตามกระแสนิยม แต่ยังตอบโจทย์ทั้งในแง่ของฟังก์ชันการใช้งาน ภาพลักษณ์ของแบรนด์ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงค่ะ

แล้วควรเลือกใช้อะไรดี?

• ถ้าเป้าหมายคือ ภาพลักษณ์แบรนด์รักษ์โลกในวงกว้าง และต้องการเลือกบรรจุภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้จริง อาจพิจารณาใช้บรรจุภัณฑ์แบบ Eco-packaging ที่สามารถรีไซเคิล หรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ง่าย
• ถ้าต้องการ ลดการใช้พลาสติกจากน้ำมัน และสนใจวัสดุทางเลือกที่มีโครงสร้างคล้ายพลาสติกเดิม พลาสติกชีวภาพอาจเป็นคำตอบ แต่ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นชนิดที่สามารถย่อยสลายได้จริง และระบบจัดการขยะในพื้นที่รองรับการกำจัดวัสดุนั้นหรือไม่

ดังนั้น การตัดสินใจเลือกใช้ Eco-packaging หรือพลาสติกชีวภาพ จึงควรพิจารณาทั้งภาพลักษณ์ของแบรนด์ ความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ และโครงสร้างพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ใช้งานร่วมด้วย เพราะแม้วัสดุบางชนิดจะมีคุณสมบัติที่ดี แต่หากระบบจัดการหลังใช้งานไม่เอื้อ ก็อาจส่งผลให้บรรจุภัณฑ์เหล่านั้นกลายเป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อมได้ในที่สุด ทั้งนี้ การเลือกบรรจุภัณฑ์อย่างมีข้อมูลจะช่วยให้ธุรกิจไม่เพียงแค่ดูดีในสายตาผู้บริโภค แต่ยังสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลกในระยะยาวได้จริงค่ะ

สรุปข้อควรรู้เกี่ยวกับ Eco-Packaging และ พลาสติกชีวิภาพ

Eco-packaging คือแนวคิดของการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงวัสดุประเภทต่าง ๆ ทั้งกระดาษ แก้ว หรือแม้แต่พลาสติกชีวภาพ ขณะที่ พลาสติกชีวภาพ เป็นวัสดุที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ และบางชนิดสามารถย่อยสลายได้ภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ ดังนั้น การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้เจ้าของแบรนด์สามารถเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามจุดยืนของแบรนด์ และสอดคล้องกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวค่ะ

Plastic Park ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกครีม หลอดครีม พร้อมพิมพ์ไม่จำกัดสี

พลาสติกพาร์ค เราเป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ทุกชนิด เช่น กระปุกครีม หลอดครีม ขวดครีม หัวปั้ม หัวสเปรย์ เรามีรูปแบบของบรรจุภัณฑ์หลากหลายกว่า 1,500 รายการ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ด้วยราคาจากโรงงานโดยตรง ทั้งนี้ เรามีรูปแบบของสินค้าให้เลือกมากมายกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง /ขวดพลาสติก/ขวดเครื่องสำอาง / กระปุกครีม / ขวดเซรั่ม /กระปุกสครับ /ตลับครีม / ขวดอโรม่า ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะนำไปต่อยอดสินค้าของแต่ละท่าน เพื่อสร้างความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่อยู่ด้านในได้อย่างลงตัว เราเชื่อว่า หากลูกค้าได้ข้อมูลที่เพียงพอ จะนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้อง ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้า และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เกณฑ์การเลือกบริษัทบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางค์ที่เชื่อถือได้

3 สิ่งควรรู้ก่อนสั่งทำบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

เลือกใช้กระปุกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางแบบไหนดีนะ ?