สติ๊กเกอร์ สกรีน แบบไหนเหมาะกับกล่องใส่บรรจุภัณฑ์มากกว่ากัน

สติ๊กเกอร์ สกรีน แบบไหนดีกว่ากัน? เป็นประเด็นที่เจ้าของแบรนด์หลาย ๆ ท่านเกิดความสงสัยอยู่ไม่ใช่น้อยในเรื่องของโลโก้และลวดลายบนกล่องใส่แพคเกจจิ้งว่าควรเลือกวิธีการไหนจึงจะคุ้มค่ามากกว่ากัน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ทั้งการสกรีน และ สติ๊กเกอร์ นั้นได้รับความนิยมทั้งคู่ บางแบรนด์นั้นเลือกงานสกรีนเพราะคุณสมบัติในเรื่องของความติดทน แต่ในขณะเดียวกันบางแบรนด์ก็เลือกสติกเกอร์ด้วยคุณสมบัติของสีสันและความละเอียดงาน  จากข้อมูลดังกล่าว ทุกคนคงจะเห็นแล้วว่างานทั้ง 2 แบบมีข้อดีแตกต่างกันออกไป ซึ่งแบบไหนจะทำให้คุ้มกว่ากัน มาดูกันค่ะ

สติ๊กเกอร์ สกรีน แตกต่างกันยังไง อยากนำมาทำโลโก้หรือลวดลายบนกล่องใส่แพคเกจ เลือกแบบไหนดี?

ต้องบอกก่อนว่ากระแสของบรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องในตอนนี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะในปัจจุบันคนไทยส่วนมากหันมาทำธุรกิจส่วนตัวกันเยอะจากค่านิยมที่อยากเป็นนายของตัวเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์สินค้าขึ้นมาใหม่อยู่เรื่อยๆ ทั้งเครื่องสำอาง, ครีมบำรุงผิว, อาหารเสริม, เครื่องดื่ม, ของหวาน, อาหารคาว ฯลฯ และหนึ่งในปัจจัยที่ต้องมีอยู่ในการธุรกิจ ก็คือกล่องบรรจุภัณฑ์ที่จะเป็นตัวช่วยให้สินค้าผลิตภัณฑ์ดูดีมีราคาเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นแล้วกล่องบรรจุภัณฑ์จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของสินค้าดีขึ้น

ซึ่งถือว่าลวดลายบนกล่องใส่บรรจุภัณฑ์มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจากที่ได้บอกไปว่าตัวกล่องจะเป็นสิ่งแรกที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ดูดีมีราคาเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสื่อสารทางการตลาดต่อ First Impression ของผู้บริโภคด้วย ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นงาน สติ๊กเกอร์ หรือ สกรีน เจ้าของแบรนด์ก็ต้องศึกษารายละเอียดเพื่อให้เหมาะกับแบรนด์มากที่สุด

งานสติ๊กเกอร์ VS งานสกรีน แตกต่างกันอย่างไร แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน?

แม้จะมีลักษณะงานที่คล้ายกัน คือการสร้างโลโก้และลวดลายบนกล่องใส่แพคเกจจิ้งสินค้า แต่ทั้งงานติดสติ๊กเกอร์และงานสกรีนก็มีข้อแตกต่างกันอยู่ ดังนี้…

งานสติ๊กเกอร์

มีความละเอียดสูงและคมชัดกว่าการสกรีนในส่วนของระยะเวลาในการผลิตจะได้ไม่เร็วเท่ากับการเพราะขึ้นอยู่กับการติดสติ๊กเกอร์ มีอยู่สองระบบก็คือ ติดด้วยมือ กับ ติดด้วยเครื่องติดสติ๊กเกอร์

• ค่าใช้จ่ายถูกกว่า
• มีความละเอียดของงานสูงกว่างานสกรีน
• ได้งานช้ากว่างานสกรีน
• ภาพลักษณ์ของงานดูทั่วไปและธรรมดา
• โรงงานผลิตส่วนใหญ่เริ่มต้นให้บริการที่หลักร้อยชิ้น

งานสกรีน

การสกรีนเหมาะกับสินค้าปริมาณมากแต่ไม่เน้นความละเอียดสูง โดยการสกรีนจะทำให้สินค้าดูมีมูลค่าสูงขึ้นและระยะเวลาในการผลิตจะรวดเร็วกว่าการทำสติ๊กเกอร์

• ค่าใช้จ่ายสูงกว่า
• มีความละเอียดของงานต่ำกว่างานสติ๊กเกอร์
• ได้งานรวดเร็ว
• ภาพลักษณ์ดูหรูหรา ดูแพง
• โรงงานผลิตส่วนใหญ่เริ่มต้นให้บริการที่หลักพันชิ้น

ทั้งนี้ เมื่อได้ทราบข้อแตกต่างของทั้ง 2 งานแล้ว เจ้าของแบรนด์ก็สามารถพิจารณาเลือกงานให้เหมาะกับกล่องแพคเกจของแบรนด์และแสดงถึงตัวตนของแบรนด์ให้ได้มากที่สุดด้วยเช่นกัน เพราะอย่าลืมว่างาน Design พวกนี้ไม่ใช่แค่งาน Art ธรรมดา แต่เป็นการ Present แบรนด์ให้โดดเด่นและเตะตาผู้บริโภคตั้งแต่แรกเห็นด้วย

สรุปแล้ว งานสกรีน หรือ สติ๊กเกอร์ ดีกว่ากัน?

ท้ายที่สุด ในเรื่องของการตัดสินใจว่างานไหนคุ้มกว่ากัน ผู้ที่จะสามารถตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุดก็คือทางแบรนด์เอง เพราะในเรื่องของคุณภาพงานแล้ว อีกสิ่งที่เจ้าของแบรนด์ต้องให้ความใส่ใจคือเรื่องของปริมาณในการผลิต ซึ่งทั้งสติ๊กเกอร์และงานสกรีนก็มีกำลังในการผลิตที่แจ้งไว้อย่างชัดเจน ดังนั้น เจ้าของแบรนด์ควรคาดการให้ดี เพราะหากสั่งงานไม่เหมาะกับปริมาณก็อาจส่งผลต่อคุณภาพของงานได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม สำหรับแบรนด์ไหนที่อยากให้ภาพลักษณ์หรู ดูแพง ได้งานอย่างรวดเร็ว และมีกำลังผลิตที่สามารถทำได้ 1000 ชิ้นต่อรอบสั่ง “งานสกรีน” ถือว่าตอบโจทย์มากที่สุด เพราะกล่องแพคเกจจิ้งของแบรนด์จะได้งานตามคุณภาพและมีมาตรฐานที่ถูกต้องตามที่ต้องการ ซึ่งทาง Plastic Park ก็มีบริการสกรีนกล่องกระดาษใส่บรรจุภัณฑ์สินค้าเช่นเดียวกัน

ทำความรู้จัก “งานสกรีน” คืออะไร ทำไมจึงได้รับความนิยมในปัจจุบัน

3 แบบงานพิมพ์สกรีนบรรจุภัณฑ์ที่เจ้าของแบรนด์ควรรู้จัก

1. ระบบซิลค์สกรีน (Silk Screen)

บริการพิมพ์บนบรรจุภัณฑ์ สกรีนขวดและกล่องใส่บรรจุภัณฑ์ ไม่จำกัดจำนวนสี จาก Plastic Park

• เหมาะกับบรรจุภัณฑ์หลากหลาย ไม่ว่าจะสกรีนขวด กระปุก หลอด ฯลฯ
• ออกแบบได้หลากหลาย ไม่จำกัดสี
• เนื้อสีนูน ดูมีมิติ
• ไม่มีค่าบล็อค
• รับผลิตจำนวนน้อย เริ่มต้นที่ 100 ชิ้น
• ยิ่งพิมพ์เยอะ ยิ่งถูก
• รับประกันงานไม่ลอก

กระแสของบรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องในตอนนี้ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะในปัจจุบันคนไทยส่วนมากหันมาทำธุรกิจส่วนตัวกันเยอะจากค่านิยมที่อยากเป็นนายของตัวเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์สินค้าขึ้นมาใหม่อยู่เรื่อยๆ ทั้งเครื่องสำอาง, ครีมบำรุงผิว, อาหารเสริม, เครื่องดื่ม, ของหวาน, อาหารคาว ฯลฯ และหนึ่งในปัจจัยที่ต้องมีอยู่ในการธุรกิจ ก็คือกล่องบรรจุภัณฑ์ที่จะเป็นตัวช่วยให้สินค้าผลิตภัณฑ์ดูดีมีราคาเพิ่มมากขึ้น ฉะนั้นแล้วกล่องบรรจุภัณฑ์จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของสินค้าดีขึ้น