โลชั่น ครีม ต่างกันยังไง แต่ละแบบควรใช้แพคเกจจิ้งแบบไหน

โลชั่น ครีม สินค้าไลน์สกินแคร์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานและถือเป็นอีก 2 ผลิตภัณฑ์ที่มีการแข่งขันทางแบรนด์สูง ซึ่งนอกจากคุณภาพของสินค้าที่แต่ละแบรนด์ต้องทำการแข่งขันกันแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญคือเรื่องของ Packaging ที่ไม่เพียงเป็นตัวบรรจุสินค้าเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในการช่วยคงประสิทธิภาพของสินค้านั้น ๆ ให้คงอยู่ แถมยังมีอิทธิพลทางการตลาด โดยการเป็นสิ่งที่สามารถโน้มน้าวผู้บริโภคให้ซื้อได้อีกด้วย ดังนั้น การเลือกแพคเกจจิ้งให้เหมาะกับสินค้าสกินแคร์เหล่านี้ให้ถูกต้องจึงสำคัญมาก

โลชั่น ครีม ต่างกันยังไง แต่ละแบบควรใช้แพคเกจจิ้งแบบไหน

โลชั่น ครีม คืออะไร ต่างกันยังไง และสกินแคร์แต่ละแบบควรเลือกแพจเกจจิ้งแบบไหน?

แม้จะดูมีลักษณะที่เหมือนกัน แต่ต้องบอกก่อนว่าทั้งครีมและโลชั่นนั้น มีจุดที่แตกต่างกันอยู่ รวมถึงลักษณะในการนำมาใช้ก็จะไม่เหมือนกันด้วย ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นจุดที่เจ้าของแบรนด์ต้องให้ความสำคัญและทำความเข้าใจกับสินค้าของตนเองเป็นอย่างมาก เพราะสกินแคร์แต่ละประเภทจำเป็นต้องถูกบรรจุลงในแพคเกจจิ้งที่มีความเฉพาะเพื่อรักษาประสิทธิภาพของสินค้านั้น ๆ ไว้ให้ได้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่เราต้องทราบถึงคุณสมบัติของทั้งครีมและโลชั่นเพื่อที่จะได้ทำการเลือกบรรจุภัณฑ์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ครีม กับ โลชั่น ต่างกันยังไง มีจุดไหนที่แตกต่างกันบ้าง?

จากที่ได้บอกไปว่า แม้จะดูมีลักษณะที่เหมือนกัน แต่ทั้งครีมและโลชั่นนั้น มีจุดที่แตกต่างกันอยู่ ซึ่งจุดแตกต่างดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้…

ครีม (Cream) คือ…

ครีมบำรุงผิวส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil) + น้ำ (Water) ซึ่งจะมีความเข้มข้นของเนื้อครีมสูงมากที่สุด หากเทียบกับการทำงานรูปแบบ(Body Form) การดูดซึมเนื้อครีมเข้าสู่ผิวได้ช้ากว่าการบำรุงผิวชนิดอื่น เนื้อครีมที่นิยมใช้กันในปัจจุบันอาจมีการใส่ส่วนผสมของสาร Active Ingredients เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ โดย “ครีม(Cream)” เหมาะสำหรับสาวผิวแห้ง เนื่องจากผิวขาดความชุ่มชื้น ใบหน้าลอก และเกิดริ้วรอยอ่อนกว่าวัยได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่น หลังจากใช้ครีมบำรุงผิวแล้วควรทำความสะอาดหน้าด้วยโฟมล้างหน้าที่มีค่า PH ควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

โลชั่น (Lotion) คือ…

เนื้อโลชั่นมีลักษณะคล้ายครีมมาก แต่จะมีส่วนประกอบของน้ำ(Water) มากกว่าเนื้อครีม เพิ่มส่วนผสมของสาร Active Ingredients วิตามิน หรือสารสกัดบำรุงผิวพรรณชนิดอื่นลงเนื้อโลชั่นได้ จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงผิวใหม่สวยกระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม ซึ่ง “โลชั่น (Lotion)” เหมาะสำหรับผิวธรรมดา (Fluid) และผิวผสม ซึ่งผิวผสมเป็นผิวที่ค่อนข้างดูแลยาก หากเลือกใช้โลชั่นบำรุงผิวหน้า ควรทาในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากมีผิวมันบริเวณ T-Zone จึงต้องดูแลส่วนนี้เป็นพิเศษ
กล่าวโดยสรุป ครีม มีส่วนผสมที่เป็นน้ำมันมากกว่า เนื้อครีมจึงมีความหนาแน่นและเข้มข้น ในขณะที่  โลชั่น มีส่วนผสมที่เป็นน้ำมากกว่า เนื้อโลชั่นจึงมีความบางเบา ไม่เหนอะหนะ ซึบเข้าสู่ผิวได้ดีกว่านั่นเอง และเนื่องด้วยความแตกต่างในด้านส่วนผสมนี่เอง ทำให้ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิดนี้จำเป็นที่จะต้องบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ที่มีความเฉพาะในการคงประสิทธิภาพของสินค้าไว้ให้ได้นานที่สุด

3 บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์โลชั่น และ ครีม

จากข้อมูลที่ได้กล่าวมา เจ้าของแบรนด์อาจเห็นแล้วว่า ทั้งโลชั่นและครีมนั้นจะต้องถูกบรรจุอยู่ใน Packaging ที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นสินค้าไลน์นี้จึงต้องมี Packaging หลาย ๆ แบบนั่นเองค่ะ เช่น..

1. กระปุก

เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเนื้อที่มีความหนืดปานกลางถึงมาก เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อครีม, เนื้อ Emulgel, สครับ หรือเนื้อทรีทเมนต์ วัสดุของกระปุกที่แนะนำจะเป็นพลาสติก และ อะคริลิคเป็นหลัก

2. ขวดหัวปั้มมีสายหรือขวดปั้ม

เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเนื้อที่มีความหนืดปานกลางถึงน้อย เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อเซรั่ม หรือ เอสเซนต์ หากเป็นในกลุ่มผิวกาย ขวดหัวปั้มมีสาย จะเหมาะกับผลิตภัณฑ์จำพวกสบู่เหลว แชมพู ครีมนวด และโลชั่น วัสดุส่วนใหญ่ของขวดประเภทนี้จะเป็นพลาสติกโดยมาก ซึ่งจะมีต้นทุนที่ราคาถูกว่าบรรจุภัณฑ์ที่เป็นอะคริลิค หรือแก้ว

3. หลอด

 เหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเนื้อที่มีความหนืดปานกลาง ส่วนใหญ่จะเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มรองพื้น และกันแดด ซึ่งปัจจุบันนี้บรรจุภัณฑ์ประเภทนี้จะมีให้เลือกหลายแบบ ทั้งเป็นปากหลอดแบบธรรมดา หรือเป็นแบบหัวปั้ม airless ก็มีให้เลือก
ทั้งนี้ นอกจากเรื่องรูปแบบของแพคเกจแล้ว อีกสิ่งที่เจ้าของแบรนด์ต้องเลือกก็คือวัสดุในการนำมาทำบรจจุภัณฑ์ซึ่งจะมีทั้งแบบแก้ว อะคลิลิค และพลาสติก สำหรับชนิดพลาสติกที่นิยมนำมาทำมาทำเป็น Skincare Packaging จะมี 2 ประเภทด้วยกัน คือ Polyethylene Terepthalate (PET) และ Polypropylene (PP) ซึ่งตัวที่มักนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสกินแคร์คือ PET เพราะเป็นพลาสติกที่มีน้ำหนักเบา สามารถรีไซเคิลได้ ราคาถูกกว่าแบบอื่น แถมยังช่วยป้องกันการทำลายเนื้อสกินแคร์จากแสงแดด อุณหภูมิ และออกซิเจนภายนอก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะลดประสิทธิภาพการทำงานของสกินแคร์และหมดอายุไวขึ้น

หากคุณกำลังสนใจหรือกำลังมองหาบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางขายส่ง โรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง โรงงานกระปุกครีม ขวดบรรจุภัณฑ์สวยๆ กระปุกเครื่องสำอาง กระปุกครีม PlasticPark เรามีบรรจุภัณฑ์ให้คุณเลือกหลากหลายรูปแบบ มีมากกว่า 1,500 รายการ และยังมีบริการพิมพ์บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางอีกด้วย เรียกได้ว่าบริการครบจบในที่เดียวที่ PlasticPark

Plastic Park ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกครีม หลอดครีม พร้อมพิมพ์ไม่จำกัดสี

พลาสติกพาร์ค เราเป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ทุกชนิด เช่น กระปุกครีม หลอดครีม ขวดครีม หัวปั้ม หัวสเปรย์ เรามีรูปแบบของบรรจุภัณฑ์หลากหลายกว่า 1,500 รายการ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ด้วยราคาจากโรงงานโดยตรง ทั้งนี้ เรามีรูปแบบของสินค้าให้เลือกมากมายกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง /ขวดพลาสติก/ขวดเครื่องสำอาง / กระปุกครีม / ขวดเซรั่ม /กระปุกสครับ /ตลับครีม / ขวดอโรม่า ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะนำไปต่อยอดสินค้าของแต่ละท่าน เพื่อสร้างความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่อยู่ด้านในได้อย่างลงตัว เราเชื่อว่า หากลูกค้าได้ข้อมูลที่เพียงพอ จะนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้อง ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้า และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เกณฑ์การเลือกบริษัทบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางค์ที่เชื่อถือได้

3 สิ่งควรรู้ก่อนสั่งทำบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง

เลือกใช้กระปุกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางแบบไหนดีนะ ?

PlasticPark ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกครีม
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.