ฉลากเครื่องสำอาง ต้องมีอะไรบ้าง เช็กลิสต์ 7 สิ่งที่ต้องมีบนฉลาก

ฉลากเครื่องสำอาง เป็นที่ทราบของเจ้าของแบรนด์ทุก ๆ คนว่าในการผลิตสินค้าสักอย่าง “ฉลาก” ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นเวชภัณฑ์ต่าง ๆ และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ “เครื่องสำอาง” ที่ถือได้ว่าเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ที่ทำธุรกิจเครื่องสำอางในปัจจุบัน ไม่ใช่ว่ามีสูตรแล้วจะขายได้ เพราะจะต้องมีการตรวจว่าผ่าน อย. หรือไม่ อีกทั้งวิธีการใช้ กระบวนการผลิต ส่วนผสมที่มีสารอันตรายหรือไม่ แน่นอนว่า ฉลากเครื่องสำอาง ที่ถูกต้อง ควรมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง วันนี้ Plastic Park จึงได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมด เป็นข้อมูลสำคัญเหมาะสำหรับทั้งผู้ที่กำลังจะผลิตเครื่องสำอาง รวมทั้งผู้ใช้งานเครื่องสำอางอยู่ด้วยเช่นเดียวกันนั่นเอง รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านกันได้ในบทความนี้

ฉลากเครื่องสำอาง ต้องมีอะไรบ้าง เช็กลิสต์ 7 สิ่งที่ต้องมีบนฉลาก

ฉลากเครื่องสำอาง คืออะไร สำคัญอย่างไร ข้อมูลเบื้องต้นที่ควรมี ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

ปัจจุบันเครื่องสำอาง เป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพชนิดหนึ่งที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อส่งเสริมให้เกิดความสะอาด และความสวยงาม นำไปสู่สุขอนามัยที่ดี และสุขภาพจิตที่ดี ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่แน่นอนว่าผู้บริโภคจะทำความรู้จักเครื่องสำอางให้มากขึ้นก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้าอย่างแน่นอน และนี่จึงเป็นเหตุผลที่เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางทุก ๆ คนจะพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะข้อมูลบนฉลากถือเป็นอีกหนึ่งการการันตีว่าแบรนด์ของเรามีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือมากแค่ไหน ฉะนั้น ต้องตรวจให้รอบครอบว่าข้อมูลครบถ้วนแล้วจริง ๆ

ฉลากบนเครื่องสำอาง คือ…

ฉลากเครื่องสำอางจะต้องเขียนด้วยข้อความที่ตรงต่อความจริง ใช้ข้อความภาษาไทยและมีข้อความที่อ่านได้ชัดเจน โดยบนฉลากเครื่องสำอางจะต้องระบุข้อความที่สำคัญได้แก่ ชื่อเครื่องสำอางและชื่อทางการค้า ประเภทของเครื่องสำอาง ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต (กรณีที่ผลิตในประเทศ) ชื่อและที่ตั้งของผู้นำเข้า และชื่อผู้ผลิตและประเทศที่ผลิต (กรณีเป็นเครื่องสำอางนำเข้า) ปริมาณสุทธิ วิธีใช้ ข้อแนะนำ คำเตือน เดือน/ปีที่ผลิตและที่หมดอายุ (กรณีเครื่องสำอางมีอายุการใช้งานต่ำกว่า 30 เดือน) เลขที่แสดงครั้งที่ผลิต เลขที่ใบรับแจ้ง และชื่อสารทุกชนิดที่เป็นส่วนผสมเครื่องสำอาง (เรียงจากมากไปหาน้อย) รวมถึงข้อความอื่นใดเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้บริโภค

ฉลากบนเครื่องสำอาง สำคัญอย่างไร ทำไมต้องมี?

ฉลากเครื่องสําอาง จำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีระบุติดเอาไว้ในทุกผลิตภัณฑ์ โดยตัวฉลากจะบ่งบอกถึงคุณภาพผลิตภัณฑ์ ที่ผลิต ความน่าเชื่อถือ การรับรองจาก อย. การนำเข้าอย่างถูกกฎหมาย แน่นอนว่าวันนี้พวกเราจึงได้รวบรวมวิธีการตัดสินใจเลือกโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ได้มาตรฐานมาแนะนำให้กับ ผู้ประกอบการ เพราะการรักษาคุณภาพแบรนด์คือเรื่องสำคัญ ดังนั้น

เช็กลิสต์ 7 ข้อมูลเบื้องต้นที่ต้องถูกระบุบนฉลากของเครื่องสำอางค์

สำหรับผู้ที่เริ่มธุรกิจเครื่องสำอาง ก็จะต้องเน้นไปที่ความรู้ในเรื่องของกฎหมาย ที่จะต้องมีกระบวนการที่ถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบโดย อย. หรือ การมีฐานผลิตที่เป็นหลักแหล่ง มีโรงงานที่ได้รับการตรวจสอบคุณภาพ ได้รับมาตรฐานการผลิต ดังนั้นแล้วฉลากสินค้า หรือ ฉลากเครื่องสำอาง จำเป็นต้องมีข้อมูลเบื้องต้นดังต่อไปนี้

1.ชื่อเครื่องสำอาง

และชื่อทางการค้าในส่วนนี้ผู้ขายมักจะให้ความสำคัญอยู่แล้ว การแสดงชื่อเครื่องสำอางบนฉลากจึงมีความชัดเจนโดดเด่นอย่างมาก แต่จะมีข้อควรระวังอยู่บ้างก็คือ เครื่องสำอางมักจะมีความหลากหลายในชื่อรุ่นเฉดสี หรือ กลิ่นโดยผู้บริโภคต้องพิจารณาชื่อผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อนซื้อ

2.ประเภท หรือชนิดของเครื่องสำอาง

เช่น ครีมป้องกันแสงแดด สบู่ ครีมบำรุงผิว แชมพูสระผม เป็นต้นเพื่อแสดงให้ทราบว่า เครื่องสำอางนี้เป็นผลิตภัณฑ์อะไร ใช้เพื่ออะไร

3.วิธีใช้

เมื่อซื้อเครื่องสำอางมาแล้ว ต้องศึกษาวิธีใช้อย่างละเอียด เพื่อที่จะได้เกิด ประโยชน์อย่างคุ้มค่า และปลอดภัย เช่นครีมกันแดดควรทาก่อนออกแดดอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพในการใช้สูงสุด หรือ ครีมบำรุงผิวหน้าบางชนิดต้องใช้ทาเฉพาะกลางคืน เพื่อมิให้ผิวหนังบริเวณนั้นถูกแสงแดด เครื่องสำอางบางชนิดใช้แล้วต้องล้างออกด้วยน้ำ บางชนิดไม่ต้องล้าง ก็ต้องใช้ให้ถูกต้องเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

4.ส่วนประกอบสำคัญ (ชื่อสารทุกชนิดที่เป็นส่วนผสม)

ข้อมูลนี้จะมีประโยชน์มากหากเราใช้เครื่องสำอางแล้วเกิดอาการแพ้ ระคายเคือง จะได้จดจำไว้เป็นข้อมูลส่วนตัวว่าแพ้สารประเภทใดหรือ ถ้าทราบว่ามีประวัติแพ้สารใดมาก่อน ก็สามารถตรวจสอบรายละเอียดของส่วนประกอบในเครื่องสำอางก่อนซื้อ เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงสารเคมีที่แพ้ได้ง่ายขึ้น

5.คำเตือน (ในบางกรณี)

เครื่องสำอางบางประเภทจะต้องแสดงคำเตือนที่ฉลากด้วยเนื่องจากผลิตภัณฑ์นั้นอาจก่อให้เกิดความระคายเคืองได้ง่าย เช่น ผลิตภัณฑ์ย้อมผม เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทราบถึงข้อควรระวังในการใช้เครื่องสำอางนั้นๆ เช่น ให้หยุดใช้เมื่อเกิดอาการระคายเคือง และควรพบแพทย์ทันที ดังนั้นอย่าลืมศึกษาคำเตือนให้เข้าใจ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

6.เลขที่แสดงครั้งที่ผลิต

การแจ้งครั้งที่ผลิตจะทำให้ทราบถึงรุ่นที่ทำการผลิต เช่น ในกรณีที่ต้องอ้างอิงสินค้าที่เกิดปัญหาขึ้น

7.วันเดือนปีที่หมดอายุ

การแจ้งวันเดือนปีที่หมดอายุจะทำให้ทราบถึงอายุของผลิตภัณฑ์ เช่นกัน แต่กฎหมายให้ระบุวันเดือนปีวันหมดอายุ เฉพาะเครื่องสำอางที่มีอายุการใช้งานน้อยกว่า 30 เดือนเท่านั้น

ท้ายที่สุด ถ้าหากว่ามี ฉลากเครื่องสำอาง ที่ถูกต้อง ควรจะต้องมีรายละเอียดสินค้าที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นวันที่ผลิต สถานที่ผลิต รวมทั้งคำแนะนำ วิธีใช้ต่าง ๆ ต้องให้ครอบคลุม มีรายละเอียดที่ชัดเจน เพราะการให้ความสำคัญของฉลากสินค้า จะมีผลต่อทั้งผู้ผลิต กับ ผู้บริโภคเป็นอย่างมาก นี่คืออีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่คุณเป็นผู้ประกอบการนั้นดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ถ้าหากว่าเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ช่วยบำรุงผิว ก็ควรที่จะได้รับรองจาก สำนักงานองค์การอาหาร และ ยา หรือ (อย.) ให้ถูกต้อง ส่วนเรื่องเกี่ยวกับโรงงานที่ผลิตเครื่องสำอาง จะต้องเลือกโรงงานผลิตที่มีมาตรฐาน ให้คำปรึกษา แนะนำได้ทุกขั้นตอน รวมไปถึงชี้แนวทางการตลาดให้ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณนั้นประสบความสำเร็จได้รวดเร็ว และ มีเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้นนั่นเอง

Plastic Park ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกบรรจุครีม หลอดครีม พร้อมพิมพ์ไม่จำกัดสี

พลาสติกพาร์ค เราเป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ทุกชนิด เช่น กระปุกบรรจุครีม หลอดครีม ขวดครีม หัวปั้ม หัวสเปรย์ เรามีรูปแบบของบรรจุภัณฑ์หลากหลายกว่า 1,500 รายการ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ด้วยราคาจากโรงงานโดยตรง ทั้งนี้ เรามีรูปแบบของสินค้าให้เลือกมากมายกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง /ขวดพลาสติก/ขวดเครื่องสำอาง / กระปุกบรรจุครีม / ขวดเซรั่ม /กระปุกสครับ /ตลับครีม / ขวดอโรม่า ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะนำไปต่อยอดสินค้าของแต่ละท่าน เพื่อสร้างความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่อยู่ด้านในได้อย่างลงตัว เราเชื่อว่า หากลูกค้าได้ข้อมูลที่เพียงพอ จะนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้อง ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้า และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้ บทความที่เกี่ยวข้อง