5 วิธีเก็บเครื่องสำอาง พร้อมเทคนิคเลือกบรรจุภัณฑ์ที่กันความร้อนได้ดี

วิธีเก็บเครื่องสำอาง ที่ถูกต้องและช่วยให้เราสามารถรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้นาน ๆ มีวิธียังไง? เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่เหล่าผู้บริโภคต้องการทราบ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบสินค้าไลน์สกินแคร์ที่ต้องบอกเลยว่าแต่ละชนิดมีวิธีการเก็บที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจากคุณสมบัติที่ต้องมีการจัดเก็บแบบเฉพาะเพื่อกักเก็บคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ให้คงทนที่สุด อย่างไรก็ตาม การที่จะจัดเก็บสินค้าสกินแคร์ให้อยู่ได้นาน ๆ นอกจากจะคำนึงถึงเรื่องอุณหภูมิในการเก็บแล้วก็ยังมีในเรื่องของบรรจุภัณฑ์ที่ก็ต้องมีความเหมาะสมในการช่วยรักษาคุณภาพของสินค้าให้คงอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งวิธีการเก็บรักษาเครื่องสำอาง-สกินแคร์มีรายละเอียดยังไงบ้าง มาดูกัน

5 วิธีเก็บเครื่องสำอาง พร้อมเทคนิคเลือกบรรจุภัณฑ์ที่กันความร้อนได้ดี

วิธีเก็บเครื่องสำอาง ที่ถูกต้องมีขั้นตอนอย่างไร ต้องเริ่มจากตรงไหนบ้าง?

ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ผู้บริโภคสมัยนี้เลือกใช้เครื่องสำอางและน้ำหอมในราคาที่สูงขึ้น มีไอเทมไหนออกมาใหม่ล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์อะไร หาซื้อยากแค่ไหน ก็ต้องกว้านซื้อมาใช้ให้ได้โดยเร็วที่สุด เรียกว่าให้ทันบิวตี้เทรนด์กันเลย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ใช้งานเครื่องสำอาง สกินแคร์ หรือน้ำหอมไอเทมนั้นไปนานๆ ก็อาจเริ่มเบื่อ ไม่สนใจดูแล วางทิ้งขว้างไว้เกลื่อนโต๊ะเครื่องแป้ง รอส่องไอเทมใหม่ที่บิวตี้บล็อคเกอร์รีวิวอยู่ในขณะนี้  แล้วเราจะทำอย่างไรกับเหล่าเครื่องสำอาง สกินแคร์ และน้ำหอมแสนแพงที่คุณมีอยู่ติดบ้านตอนนี้  Plastic Park จึงอยากชวนให้ทุก ๆ คนหันมาดูแลเครื่องสำอาง สกินแคร์ และน้ำหอมแพง ๆ ของตนเองด้วยวิธีง่าย ๆ ในการเก็บรักษา เพื่อรักษาคุณภาพให้เครื่องสำอาง สกินแคร์ และน้ำหอมยังใช้ได้ดีก่อนวันหมดอายุ มาดูกันเลย

5 เทคนิคเก็บเครื่องสำอาง-สกินแคร์ ที่สายบิวตี้ควรรู้

จากที่ได้กล่าวไปว่าเครื่องสำอาง-สกินแคร์นั้นมีหลายแบบมาก ๆ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกันไป โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. คลีนเซอร์

โดยปกติแล้วคลีนเซอร์จะมีอายุการใช้งานราว 1 ปี เมื่อหมดปีแล้วหากคุณไม่ใช้ก็ควรทิ้งไป เพราะหลังที่คุณเปิดใช้ไปสัก 1-2 ครั้ง หากคุณทิ้งไว้แล้วไม่ใช้ คุณภาพจะเสื่อมลง คลีนเซอร์ควรเก็บไว้ในห้องน้ำใกล้ๆ อ่างล้างหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนและแสงแดด การเก็บไว้ใกล้อ่างล้างหน้าทำให้คุณสามารถหยิบจับใช้งานได้ง่ายด้วย

2.มอยซ์เจอไรเซอร์

เช่นเดียวกับคลีนเซอร์ อายุการใช้งานของมอยซ์เจอไรเซอร์ส่วนใหญ่ไม่เกิน 1 ปีหลังเปิดใช้ หากคุณสังเกตเห็นว่าสีของเนื้อครีมเริ่มเปลี่ยน เลิกใช้โดยทันที เหมือนกับคลีนเซอร์ ไม่ควรวางมอยซ์เจอไรเซอร์อยู่ในที่ที่มีอากาศร้อน หรือที่ที่มีแสงแดดส่องโดนตลอดเวลา เพราะจะทำให้เนื้อครีมของมอยซ์เจอไรเซอร์เสื่อมลงในเวลาอันรวดเร็ว ควรเก็บรักษาไว้ในที่ที่มีอากาศเย็น

3. เซรั่ม

เซรั่มเป็นสกินแคร์ที่มีอายุการใช้งานไม่ยาวนานนัก ใช้งานได้นานประมาณ 1 ปี และหากคุณนำมาใช้เมื่อเซรั่มหมดอายุแล้วจะเป็นอันตรายต่อผิวพรรณ อันที่จริงแล้วการเก็บรักษาสกินแคร์แบบเซรั่มหรือมอยซ์เจอไรเซอร์ควรเก็บในที่ที่มีอากาศเย็น รักษาอุณหภูมิเพื่อให้คงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ไม่ควรอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งในห้องที่มีอากาศร้อน หรือแสงแดดส่องถึงจะทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อมคุณภาพก่อนกาลเวลา อีกทั้งไม่ควรเก็บเซรั่มในห้องน้ำ เพราะอุณหภูมิและความชื้นในห้องน้ำจะก่อให้เกิดเชื้อราโดยที่คุณอาจไม่ทันสังเกตเห็น ดังนั้นเมื่อเลือกซื้อเซรั่มมาใช้สักขวด ควรดูแลเรื่องการเก็บรักษาให้ดี

4. มาสคาร่า

เข้าสู่โหมดเมคอัพแล้ว เรามาเริ่มต้นด้วยมาสคาร่าที่สาวๆ มีมากมายหลายแท่ง ซื้อมาใช้แป๊ปๆ ก็แห้งเหือดใช้งานแทบไม่ได้ เสียดายเงิน เหมือนกับผลิตภัณฑ์แต่งตาส่วนมากที่เป็นของเหลว มาสคาร่ามีอายุการใช้งานสั้น แห้งง่าย หลายคนโยนทิ้งไป วิธีแก้ไขปัญหามาสคาร่าแห้งที่ง่ายที่สุดคือ เทน้ำร้อนลงในแก้ว จากนั้นจุ่มแท่งมาสคาร่าลงในแก้วน้ำร้อน แช่ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที หรืออาจแช่ทิ้งไว้จนกว่าน้ำจะหายร้อน ความร้อนจากน้ำจะทำให้เนื้อมาสคาร่าที่เกาะตัวติดกันในหลอดละลายจนกลายเป็นเนื้อเดิม ทำให้สามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ที่สำคัญ มาสคาร่าก็เหมือนสกินแคร์และเมคอัพไอเทมทั่วไป ไม่ควรเก็บไว้ในที่มีแดดส่งถึง

5. ลิปสติก

ตราบใดที่คุณเก็บลิปสติกแท่งแพงของคุณไว้ในที่ที่มีอากาศเย็น และแห้ง ลิปสติกของคุณจะมีอายุการใช้งานได้นานถึง 2 ปี ที่สำคัญคุณผู้หญิงไม่ควรลืมทิ้งลิปสติกไว้ก้นกระเป๋าของคุณ เพราะหากคุณลืม หรือแขวนกระเป๋าไว้ในที่ที่มีอากาศร้อน ลิปสติกแท่งนั้นอาจละลายและทำให้กระเป๋าเปรอะเปื้อน เสียทั้งลิปสติก แถมอาจต้องทิ้งกระเป๋าไปทั้งใบอีกด้วย
 

3 พลาสติกกันความร้อนที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์สกินแคร์

“พลาสติก” ถือเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมจากเครื่องสำอางและสกินแคร์หลาย ๆ แบรนด์เพราะนอกจากจะมีราคา

1.วัสดุพลาสติกชนิด PET

จะพบได้บ่อยในบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางประเภทกระปุกครีม ขวดปั๊ม ขวดบีบ หรือบรรจุภัณฑ์แบบใสเพื่อโชวเนื้อเครื่องสำอาง เหมาะบรรจุเครื่องสำอางได้หลากหลาย แต่อาจจะไม่เหมาะกับพวกเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินซี หรือ ที่มีส่วนผสมของความเข้มข้นสูง

 2.วัสดุพลาสติกชนิด PP

จะได้พบได้ทั้งกระปุกครีม ขวดต่างๆ ข้อดีของ PP คือทนกรด ทนด่าง ทนความร้อนสูง เหมาะสำหรับบรรจุเครื่องสำอางที่มีความเข้มข้นสูง หรือครีมกันแดด

 3.วัสดุพลาสติกชนิด PE

คุณสมบัติคล้าย ๆ PP พบได้บ่อยในบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง หลอดครีม เหมาะกับสารกันแดด (SPF)
 
 
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วจากที่ได้แจ้งไปว่าบรรจุภัณฑ์นั้นมีหลายแบบและมีวัสถุที่ถูกนำมาใช้หลายอย่างมาก ๆ ซึ่งข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดถือเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือในการเลือกกระปุกครีมหรือบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ควรเลือกให้เหมาะกับประเภทของครีมหรือสินค้าที่จะนำไปบรรจุ เพราะบรรจุภัณฑ์เหล่านี้สัมผัสกับเนื้อครีมของเราโดยตรง ควรเป็นวัสดุที่ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับครีม บรรจุภัณฑ์ที่ดีจะช่วยคงคุณภาพของครีมในกระปุก ช่วยยืดอายุครีมด้านในบรรจุภัณฑ์ได้ และไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับผู้บริโภคเองด้วย

Plastic Park ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกบรรจุครีม หลอดครีม พร้อมพิมพ์ไม่จำกัดสี

พลาสติกพาร์ค เราเป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ทุกชนิด เช่น กระปุกบรรจุครีม หลอดครีม ขวดครีม หัวปั้ม หัวสเปรย์ เรามีรูปแบบของบรรจุภัณฑ์หลากหลายกว่า 1,500 รายการ จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง ด้วยราคาจากโรงงานโดยตรง ทั้งนี้ เรามีรูปแบบของสินค้าให้เลือกมากมายกว่า 1,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง /ขวดพลาสติก/ขวดเครื่องสำอาง / กระปุกบรรจุครีม / ขวดเซรั่ม /กระปุกสครับ /ตลับครีม / ขวดอโรม่า ฯลฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่จะนำไปต่อยอดสินค้าของแต่ละท่าน เพื่อสร้างความน่าสนใจ และเพิ่มมูลค่าของสินค้าที่อยู่ด้านในได้อย่างลงตัว เราเชื่อว่า หากลูกค้าได้ข้อมูลที่เพียงพอ จะนำมาซึ่งการตัดสินใจที่ถูกต้อง ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับสินค้า และเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าได้ บทความที่เกี่ยวข้อง

 
PlasticPark ขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง ขวดปั๊ม กระปุกครีม
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.