6 เทคนิคการสร้างแบรนด์สินค้าความงาม เครื่องสำอางและครีมบำรุง

การตลาดด้านเครื่องสำอางปี 2021 นี้มีความร้อนแรงไม่แพ้ปีที่ผ่านๆมา แม้จะมีสถานการณ์โรคโควิด-19 แต่ธุรกิจความงานยังคงเติบโตสวนกระแสขึ้นเรื่อยๆ จะเห็นได้จากการทำการตลาดของสินค้ารูปแบบต่างๆ ทั้งด้านความงาม อาทิ ครีมบำรุง เซรั่ม สบู่เหลว เจล เอสเซนต์ น้ำตบ หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาต่างๆเช่น ครีมลบริ้วรอย ครีมแก้จุดด่างดำ แก้ฝ้า หรือโทนิคปลูกผม เครา จอน คิ้ว ล้วนต่างเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการในตลาดอยู่เสมอๆและนับจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่มีใครที่อยากหยุดความสวยงามและเลิกดูแลตัวเอง

ตลาดเครื่องสำอางค์และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว จึงมีมูลค่านับหมื่นล้านบาทต่อปี และมีทีท่าว่าจะเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ นี่จึงเป็นสิ่งเย้ายวนให้มีผู้ประกอบการณ์รายใหม่ๆพยายามเข้ามาสร้างโอกาสจากธุรกิจด้านนี้อยู่ตลอดเวลา

เนื่องจากปัจจุบันเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าหาแหล่งผลิต มีโรงงานมากมายที่รับผลิตสินค้าแบบ OEM ซึ่งแต่ละรายจะมีรูปแบบแพคเกจและราคาเริ่มต้นแตกต่างกันไป ยิ่งเป็นปัจจัยเสริมให้การเริ่มต้นธุรกิจเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น

แน่นอนว่าไม่ใช่ผู้ประกอบการณ์ทุกราย ที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจด้านครีมบำรุงและเครื่องสำอาง เพราะนอกจากตัวผลิตภัณฑ์ที่ต้องดูแลใส่ใจแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งที่ผู้ประกอบการณ์ต้องใส่ใจและพัฒนา
ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่องการทำแบรนด์ (Branding) ที่มีความสำคัญต่อการเป็นที่รู้จักและจดจำ ทำให้ผู้ซื้อหันมามองและเริ่มต้นทดลองใช้ ซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญที่จะพัฒนาไปเป็นความไว้วางใจในที่สุด

Plastic Park ขอเสนอ 6 เทคนิคการสร้างแบรนด์สินค้าครีม เครื่องสำอาง เพื่อพัฒนาให้เหนือคู่แข่ง

1. วิเคราะห์กลุ่มลูกค้าให้ชัด (Targeting)


สินค้าที่เหมาะกับคนที่เพศทุกวัย ทุกกลุ่ม นั้นไม่มีอยู่จริง และผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเลือกตัวเลือกที่บ่งบอกสิ่งที่ตรงกับบุคลิกหรือความต้องการของตัวเองมากที่สุด ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดเครื่องสำอางและครีมบำรุงที่มากขึ้น ทำให้แต่ละรายพยายามแย่งลูกค้าในตลาดโดยการแบ่งกลุ่มลูกค้าตัวเองให้ชัดเจน หลายๆแบรนด์จะเลือกผลิตสินค้าโดยการศึกษาและวิเคราะห์ช่องว่างในตลาดก่อน ว่ายังขาดผลิตภัณฑ์ประเภทใดหรือคุณค่าแบบไหนที่ยังไม่มีคู่แข่งรายใดนำเสนอ หรือปรับปรุงในสิ่งที่มีคู่แข่งที่ทำอยู่แล้ว แต่ยังทำได้ไม่ดี หรือการแบ่งกลุ่มลูกค้าตามช่วงวัย ความสนใจ ระดับรายได้ เพื่อสร้างจุดต่างและดึงลูกค้าให้หันมาสนใจแบรนด์ให้ได้มากที่สุด

2. นำเสนอคุณค่าที่เป็นจุดเด่นและทำให้เกิดความแตกต่าง

หลังจากที่ Target กลุ่มเป้าหมายในตลาดและเลือกคุณค่าที่จะนำเสนอได้แล้ว แบรนด์ต้องพยายามนำเสนอจุดที่มีความโดดเด่นและแตกต่างกว่าคู่แข่งนั้น หากคุณกำลังเริ่มต้นธุรกิจเครื่องสำอางหรือครีมบำรุง ลองนึกถึงส่วนประกอบที่มีคุณสมบัติบางอย่างเพื่อชูขึ้นมาเป็นจุดขาย เช่น ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของชาเขียวมีสารต้านความเสื่อม (Antioxidant) ที่ทำให้เกิดริ้วรอยที่ผิว ข้อมูลเหล่านี้จะดึงดูดให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือก เกิดความสนใจและหันมาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์มากขึ้น

แบรนด์ต้องพยายามสื่อสารคุณค่าเหล่านี้ผ่านการะบวนการออกแบบ และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ในช่องทางการตลาดที่มีอยู่ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ซึ่งนี่จะเป็นวิธีการที่ทำให้ตัวตนของแบรนด์เป็นที่จดจำมากกว่าการพยายามเป็นทุกๆอย่างในใจของผู้บริโภค

3. ระบุความเชี่ยวชาญหรือประวัติความเป็นมาที่สำคัญ


หากคุณกำลังต่อยอดสินค้าจากธุรกิจครอบครัวที่ทำมารุ่นสู่รุ่น มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน สามารถถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้ เพราะลูกค้าจะให้ความเชื่อมั่นในสินค้าที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้ว หรือหากคุณใช้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านใดโดยเฉพาะ ก็ควรนำเสนอข้อมูลความเชี่ยวชาญของทำงานให้เป็นที่รับทราบทั้งบนบรรจุภัณฑ์หรือการประชาสัมพันธ์บนช่องทางการตลาดที่คุณทำอยู่

4. ใช้งานวิจัย R&D สร้างความว้าว


ปัจจุบันมีโรงงาน OEM หลายแห่งที่เป็นเจ้าของสิทธิบัตรและการพัฒนาด้านนวัตกรรมอยู่ตลอดเวลา ลองสอบถามโรงงานที่คุณสนใจและเลือกใช้บริการ ว่ามีนวัตกรรมด้านใดที่โดดเด่นเพื่อนำมาเป็นจุดต่างในการสร้างแบรนด์ได้บ้าง เพราะธุรกิจด้านเครื่องสำอางและครีมบำรุงนั้นมีการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา การนำเสนอให้ลูกค้ารับรู้ว่าแบรนด์ของคุณมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูทันสมัยและน่าจะตอบโจทย์ปัญหาที่ลูกค้าต้องการแก้ไขได้

5. เลือกใช้บรรจุภัณฑ์หรือแพคเกจจิ้ง (Packaging) ที่โดดเด่นและตอบโจทย์สินค้า


เพราะบรรจุภัณฑ์สามารถสื่อสารกับลูกค้าในเชิงอารมณ์และความรู้สึก รูปลักษณ์ของบรรจุภัณฑ์ช่วยย้ำแบรนด์ให้น่าสนใจและเป็นที่จดจำ บรรจุภัณฑ์ที่ดีจึงควรเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับประเภทการใช้งาน ระดับของผลิตภัณฑ์ในตลาด (Position) และกลุ่มลูกค้าอีกด้วย
ดูบทความ 3 เทคนิคในการเลือกบรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์ความงาม หรือเครื่องสำอาง
ดูบรรจุภัณฑ์ประเภทต่างๆจาก Plasticpark คลิกที่นี่

6. เลือกใช้สีและโลโก้เพื่อสร้างการจดจำ


เราสามารถบอกได้ว่าโฆษณาน้ำอัดลมหรือกาแฟ ที่เราเห็นตอนเลื่อนนิ้วมือผ่าน feed หน้ามือถือของเราคือแบรนด์อะไรในช่วงเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที สิ่งนี้เป็นผลมาจากการทุ่มเม็ดเงินจำนวนมหาศาลในการทำการตลาด แต่สิ่งที่เป็นปัจจัยความสำเร็จส่วนหนึ่ง คือการออกแบบที่วางแผนมาอย่างดีของแบรนด์ แบรนด์ที่ดีจะกำหนดสี สัญลักษณ์ (Logo) ที่ตั้งใจออกแบบมาแล้ว เพื่อสื่อภาพลักษณ์และสร้างการจดจำ

การออกแบบที่ดี ควรกำหนดสีหลักไม่เกิน 2-3 สี โดยมีสัดส่วนของสีใดสีหนึ่งให้มีความโดดเด่นมากกว่าสีที่เหลือ ส่วนการออกแบบตราสัญลักษณ์หรือโลโก้ ก็ควรสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ อาจจะเลือกใช้ความหมายเชิงสัญลักษณ์ เช่นดอกไม้แทนความหอม หรือภาพธรรมชาติแทนความสะอาดหรือออแกนิคส์ สิ่งที่สำคัญคือ โลโก้นั้นต้องไม่ซับซ้อนจนเกินไป เพื่อทำให้จดจำได้ง่าย

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงบางส่วนของเทคนิคการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ด้านความงามประเภทเครื่องสำอางค์และครีมบำรุง สำหรับผู้ประกอบการณ์ที่อยากยกระดับสินค้าให้เหนือกว่าคู่แข่งและสร้างโอกาสในการเป็นที่จดจำมากขึ้น หลังจากที่นำสินค้าออกวางจำหน่ายแล้ว ผู้ประกอบการณ์ยังคงต้องพัฒนาการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในแต่ละจุดที่มีโอกาสติดต่อกับลูกค้า เพราะแบรนด์ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ตัวผลิตภัณฑ์ แต่ยังรวมถึงประสบการณ์ต่างๆที่ลูกค้าได้รับในระหว่างทางที่ใช้ผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้าสัมพันธ์ บริการหลังการขาย คอลเซ็นเตอร์ หรือแอดมินที่ดูแลช่องทางออนไลน์ โดยแต่ละเรื่องยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ควรศึกษาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทาง Plastic Park จะนำสาระและบทความดีมาแบ่งปันอยู่เรื่อยๆ ผ่านช่องทางเวบไซท์ www.plasticparkstore.com หรือบน Facebook Page plastic park ฝากติดตามเนื้อหาดีๆจากเรากันนะคะ